- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 8 hours ago
- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 7 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
‘ทรัมป์’ลงแส้มุสลิม
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ “ลงแส้” แรง ตามที่ลั่นวาจาไว้ กรณีห้ามชาวมุสลิมเข้าประเทศ เป็นการ “ทำตามสัญญา” ที่ส่งผลกระทบ และสร้างความปั่นป่วนขึ้นในวงกว้าง
ทรัมป์เซ็นคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร (Executive order) เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ห้ามประชาชนในประเทศนับถือศาสนาอิสลาม 7 ชาติ คือ ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ซูดาน ลิเบีย โซมาเลีย และเยเมน เข้าสหรัฐชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน
นอกจากนั้น ยังสั่งงดรับผู้อพยพชั่วคราว ส่วนใหญ่จากซีเรียและอิรัก เป็นเวลา 120 วัน เพื่อกำหนดระเบียบการรับผู้อพยพใหม่ อีกทั้งมีแผนรับผู้อพยพปีนี้เพียง 50,000 คน ลดลงจาก 110,000 คน ในปีที่แล้ว
สำหรับคำสั่งห้าม ทำให้ประชาชนในประเทศเป้าหมาย ซึ่งมีรวมกันกว่า 137 ล้านคน ไม่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้
ขณะผู้ที่อยู่ระหว่างเดินทาง ถูกกักตัวไว้ในสนามบินเจเอฟเค (JFK) นครนิวยอร์ก และถูกปฏิเสธห้ามขึ้นเครื่องบินจากต้นทาง รวมประมาณ 375 คน สร้างความไม่พอใจให้ประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะชาวมุสลิม มีการประท้วงในสนามบินสหรัฐหลายแห่ง
ส่วนประเทศที่ถูกห้าม และชาติมุสลิมอีกหลายประเทศ รวมทั้งประเทศชั้นนำของโลกที่ไม่ใช่ชาติมุสลิม เช่น อังกฤษ เป็นต้น แสดงปฏิกิริยาต่อต้านการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐครั้งนี้ ขณะที่อิหร่านประกาศจะตอบโต้ด้วยการห้ามชาวอเมริกันเข้าอิหร่าน
ทรัมป์ให้เหตุผลถึงการออกคำสั่งว่า เป็นมาตรการป้องกันกลุ่มก่อการร้ายเข้าไปก่อเหตุในสหรัฐ เป็นแผนปกป้องประเทศจากกลุ่มก่อการร้าย
หลังมีกระแสต่อต้าน ทรัมป์ได้ออกมาอธิบายว่า คำสั่งนี้ไม่ใช่มาตรการห้ามชาวมุสลิมเข้าสหรัฐ แต่เป็นแผนสกัดกลุ่มก่อการร้าย จากนั้น ทรัมป์ได้โทรศัพท์สนทนากับผู้นำหลายประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส รัสเซีย และออสเตรเลีย
ด้านสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (American Civil Liberties Union: ACLU) ได้ยื่นขอความคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลกลางที่นครนิวยอร์ก ขอให้มีคำสั่งห้ามเนรเทศผู้ถือวีซ่าและกรีนการ์ดอย่างถูกกฎหมาย ออกนอกสหรัฐ
และศาลได้ตัดสินให้ความคุ้มครองชั่วคราวตามที่ยื่นขอไป
นี่เป็นเพียง “แส้แรก” ของผู้นำสหรัฐ ยังส่งผลกระทบรุนแรงตามที่ปรากฏ ทำให้คาดการณ์ได้ยากถึงผลกระทบของแส้ลำดับถัดไปว่า
จะช่วยให้สังคมอเมริกัน รวมทั้งสังคมโลกที่เกี่ยวข้อง มีสันติภาพ ร่มเย็นเป็นสุขมากน้อยเพียงใด
You must be logged in to post a comment Login