วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ตาแพ้ใจ ใจแพ้ตา / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On January 31, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

พูดถึง คุณสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ทำให้ชื่อเสียงประเทศเสียหาย เพราะอารมณ์เพียงชั่ววูบ ซึ่ง อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติบอกว่าอาย ภาพดีๆในบ้านเมืองมีเยอะแยะไม่ขโมย ไปขโมยทำไมภาพห่วยๆ ที่วัดร่องขุ่นมีภาพสวยๆเพียบ

บางคนก็บอกว่าเป็นโรคจิต แต่ความอยาก ความงก มันกดดันอารมณ์คนชั่ววูบได้เหมือนกัน ที่สำคัญคือตำแหน่งหน้าที่ ทั้งภูมิหลังกำพืดก็เคยอยู่ในญี่ปุ่น ประตูมันไม่น่าจะเปิด อย่างที่พระพุทธเจ้าบอกว่า คนยังไม่ทำชั่วเพราะโอกาสยังไม่ให้ วันนั้นโอกาสมันให้แค่ไหนอย่างไรก็ยากที่จะเดาได้ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ความดีที่คนในกระทรวงเดียวกันสรรเสริญชื่นชมว่าเป็นคนทำงานดี ตรงไปตรงมา แต่เขาบอกว่าคนเรานั้น ชั่ว 7 ที ดี 7 หน บางทีชั่วปนดี ดีปนชั่ว บางทียังไม่ชั่ว เพราะโอกาสยังไม่ให้ก็ได้ หรืออารมณ์อยากยังขึ้นไม่สูง

พระพุทธเจ้าเคยบอกว่า ขโมยคือเสนียดจัญไรของโลก ชื่อเสียงกระทรวงและประเทศก็เสียหาย อย่างที่อาจารย์เฉลิมชัยก็อายแทน ไปไหนคงต้องเอาปี๊บคลุมหัว เพราะมันเหลือเชื่อ เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิด

คนไม่ดีบางทีอารมณ์ไม่ดีมันบอกว่าทำได้สบาย นึกว่าทำแล้วจะรอด ไม่มีเสีย ก็เลยทำไป แม้ตัวเองจะรอดจากคุกที่ญี่ปุ่น เพราะทางญี่ปุ่นยอมปล่อยตัว อ้างเป็นคดีที่โทษนิดเดียว ซึ่งเป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน จึงทำให้เชื่อว่าน่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังในการช่วยครั้งนี้ แต่เมื่อกลับเมืองไทยก็หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะทำให้ชื่อเสียงประเทศเสียหาย แม้จะออกมาขอโทษขอโพยก็ตาม บางคนก็ให้ปลดออกแล้วยกเลิกบำนาญและสวัสดิการ เพื่อเป็นบรรทัดฐานของข้าราชการไทย

อาตมามานึกดูว่า ความจริงท่านรองอธิบดีก็อยู่ในวัยที่รู้เดียงสา แต่วุฒิภาวะก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าคนมีการศึกษาดี ตำแหน่งดีจะเป็นคนดี แม้ทำงานดี ประพฤติดี แต่ไม่ได้เป็นเกลือรักษาความเค็ม แต่เป็นเกลือเป็นหนอนซะมากกว่า ถ้าเกลือรักษาความเค็มต้องเป็นคนที่ดีเข้ม ดีคง ดีทน ดีนาน ดีไม่จืดไม่จาง อย่างนี้ดีจางไปซะแล้ว ที่บอกกันว่าเกิดมาชาติหนึ่งอย่าให้มีคำว่า โจร คือเสนียดจัญไรของโลก

ชีวิตมาเจอเสนียดจังๆ เพราะสิ่งที่ทำผิดครั้งนี้ยากที่จะให้อภัย รองอธิบดีบอกว่าภาพนี้สวยดี แล้วคนในโรงแรมก็บอกไฮ ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นหรือจะมโนแปลเป็นภาษาไทยว่าให้ เลยหยิบมานั้น จะเป็นลูกเล่นหรือมุขก็ใช้ไม่ได้ ถ้าเอามาใช้กันก็คงเสียศูนย์แน่ๆ

จึงขอฝากว่า คนเราเกิดมาชาติหนึ่งเห็นอะไรก็อย่าให้ตาแพ้ใจ หรือให้ใจแพ้ตา ถ้ารองอธิบดีใจเข้มแข็ง ไม่แพ้ตาที่เห็น คงไม่อยู่ในสถานการณ์ที่กดดันจากสังคมเช่นนี้ เมื่อใจแพ้ตา ใจไม่ใหญ่ ใจไม่แข็ง เลยทำให้เห็นผิดเป็นชอบ อย่างนี้เรียกว่า ตาใหญ่กว่าใจเลยพาไปเป็นโจร เป็นขโมย เรียกว่าใจแพ้ตา ถ้าตาเห็นอะไร ใจเข้มแข็งคงไม่แพ้ง่ายๆแบบนี้

ต้องดูกันว่ารองอธิบดีท่านนี้จะเป็นอย่างไร แม้ทางญี่ปุ่นไม่เอาผิดถึงขั้นจับกุมคุมขัง แต่คงหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่ทำให้ประเทศชาติและวงการข้าราชการไทยมัวหมองและเสียหายไม่ได้

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login