- อย่าไปอินPosted 18 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ขโมยของไม่ผิด?
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
รัฐบาลทหารคสช.ที่ชูจุดขายเป็นรัฐบาลปราบโกง กำลังถูกจุดขายย้อนกลับมาเล่นงานตัวเอง เปรียบเหมือนคนเล่นของที่กำลังถูกของย้อนเข้าตัว
ความพยายามโอบอุ้มและให้ความช่วยเหลือ นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่ถูกจับกุมที่ประเทศญี่ปุ่นในข้อหาลักขโมยภาพในโรงแรม จนได้เดินทางกลับประเทศโดยไม่ถูกดำเนินคดี ทำให้สังคมย้อนมองจุดยืนของรัฐบาลทหารคสช.เรื่องการปราบโกงต่อต้านทุจริตอย่างมีข้อสงสัย
ทั้งสงสัยในมาตรฐานการทำงานของหน่วยราชการไทยในการช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ได้ยากในต่างแดน ว่าหากเป็นประชาชนคนธรรมดาทั่วไปถูกจับบ้าง จะได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แบบเดียวกันนี้หรือไม่
ทั้งสงสัยในกระบวนการพิจารณาลงโทษที่ต้องตั้งกรรมการสอบซ้ำ ทั้งที่มีหลักฐานปรากฏชัดเจน
ทั้งสงสัยในคำพูดของผู้หลักผู้ใหญ่บางคน ที่บอกว่าการลักขโมยไม่ใช่เรื่องใหญ่ร้ายแรง หรือการขอร้องทำนองว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ทำความผิด และขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องนี้มาขยายความจนเกินเลย
นับเป็นการส่งสัญญาณผิดจากฝ่ายคุมอำนาจที่ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง ทำให้เครดิตความเป็นรัฐบาลปราบโกงถูกลดทอนลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่เทคแอ็คชั่นตรวจสอบสินบนอื้อฉาวที่เกี่ยวพันกับหลายหน่วยงานที่องค์กรต่างประเทศเปิดเผย
เวลาผ่านมากว่าสองสัปดาห์ มีแต่คำคุยโวจากฝ่ายตรวจสอบว่ารู้ชื่อหมดแล้วว่าใครเกี่ยวข้องกับการรับสินบนบ้าง พร้อมคำยืนยันเอาผิดได้แน่
ย้อนมาที่เรื่องของนายสุภัฒ หลังจากที่ถูกสังคมตั้งคำถามอย่าหนัก ทำให้มีการเร่งรัดการสอบสวน ที่จากเดิมจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ลดมาเหลือแค่จะรู้ผลภายใน 1-2 วันนี้
ผลการสอบสวนประชาชนคงไม่อยากรู้เท่าไหร่ เพราะอย่างไรเสียก็เชื่อว่าจะออกมาสวนทางกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏได้ยาก
สิ่งที่ประชาชนเฝ้ารอดูคือความเด็ดขาดของการลงโทษมากกว่า
ตามระเบียบราชการบทลงโทษทางวินัยมีอยู่ด้วยกัน 5 ระดับ ไล่ตั้งแต่ ภาคทัณฑ์ ลดเงินเดือน ตัดเงินเดือน ให้ออก และไล่ออก
ต้องมารอดูกันว่าโทษของนายสุภัฒจะระดับไหนอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ คงต้องทำใจเอาไว้แต่เนิ่นๆ เพราะบทลงโทษที่จะออกมาอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด และไม่สมกับภาพลักษณ์ของการเป็นรัฐบาลปราบโกง
ทั้งนี้ เพราะมีความพยายามอธิบายว่าการขโมยภาพวาดของนายนายสุภัฒเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ถือว่าเป็นความผิดต่อราชการ
เมื่อเจรจาชดใช้กันได้ ผู้เสียหายไม่เอาเรื่อง ประเทศต้นทางปล่อยตัวกลับไม่ดำเนินคดีพฤติการณ์ของนายสุภัฒจึงไม่เข้าองค์ประกอบต่อการทำผิดต่อราชการตามประมวลกฎหมายอาญาตั้งแต่มาตรา 147-116 ที่จะสามารถลงโทษทางวินัยได้
ถ้าว่ากันตามตัวหนังสือที่เขียนไม่มีช่องให้ลงโทษนายสุภัฒ
แต่เพื่อลดกระแสสังคม และลดความเสียหายต่อภาพลักษณ์การต้านโกงของรัฐบาลทหารคสช.จะมีบทลงโทษอะไรออกมาเพื่อให้สังคมรู้สึกว่าไม่ได้วางเฉยต่อเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไป
You must be logged in to post a comment Login