วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ขาดสมณสัญญา / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On February 3, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

มีข่าวใหญ่ข่าวโตข่าวดังในวงการสงฆ์ วงการพระ กรณีพระขับรถซิ่งแล้วชนรถของฤาษีที่จังหวัดกาฬสินธุ์

สมณะแปลว่าผู้สงบ แต่กลับคึกคะนองซิ่งรถวอลโว่จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีคนบาดเจ็บ 1 ราย ทั้งยังทำให้เสียภาพลักษณ์วงการสงฆ์อีก เรื่องนี้เขาก็มีกฎหมายอยู่แล้วว่าห้ามพระขับรถ แต่ในต่างจังหวัดก็ยังมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ ไม่ยอมรับกฎกติกาหรือเงื่อนไขทางสังคมอะไรกันเลย ไม่รู้ว่าดักดานอยู่ถ้ำอยู่ป่าอะไร

ที่จริงพระอยู่ถ้ำอยู่ป่า ท่านยังมีความประพฤติดีกว่า ท่านไม่ออกมาจุ้นมาวุ่นวาย ความจริงพระถ้ามีสมณสัญญาก็น่าจะรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร มันเหมาะมั้ย ขับรถได้มั้ย เรื่องนี้เขาห้ามมานานแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีชนคนตาย ชนหมาตาย เกิดเป็นเรื่องบ่อยๆ

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคำๆเดียวคือ “ขาดสมณสัญญา” คือ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทำอย่างนั้นได้หรือไม่

ทำไมต้องมีคนบอกว่าทำได้ไม่ได้ เขาก็คงได้แต่พูด ขณะที่คนที่จะทำก็ทำกันไปเรื่อยๆ ไม่รู้สึกกระดาก ไม่มียางอาย ไม่มีสมณสัญญา พอเกิดเรื่องขึ้นมาก็ตาตื่นตกตะลึงตกใจ

การที่เรามีรถแล้วไม่มีคนขับก็อย่าไปมีดีกว่า เพราะมีแล้วมันทำเกิดความสูญเสีย เสียหาย ถ้ามีรถก็ต้องมีคนขับ วัดไหนจะไหว้วานคนข้างวัดมาขับรถสักคนไม่มีเชียวหรือ ถ้าอย่างนั้นก็พูดง่ายๆว่า ไม่มีบารมี ไม่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน จึงไม่มีใครรับอาสา มีจิตอาสาที่จะพาพระไปนั่นไปนี่ ไปกิจที่จำเป็น

แต่นี่ไปในกิจที่ไม่จำเป็นแล้วยังซิ่งเร็วเกินเหตุอีก จนมีคนบาดเจ็บ ไม่ถูกจับสึก ไม่ติดคุกทั้งผ้าเหลืองหรือ จึงถึงเวลาแล้วที่คณะสงฆ์ต้องเอาจริงเอาจังเสียที อย่าปล่อยให้พระแบบนี้ลอยนวลอยู่ หากเจอก็ต้องเรียกมาตักเตือน เกิดขึ้นในจังหวัดไหน เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัดต้องจัดการ ซึ่งส่วนมากจะเป็นแถวภาคอีสาน ภาคเหนือ กับภาคใต้รู้สึกว่าจะมีน้อย ยิ่งกรุงเทพฯ ถ้ามีใครเห็นพระขับรถ เขาก็จวกกันทันที ไม่มีใครยอม

ญาติโยมก็อย่ายอม อย่าให้พระสร้างปัญหาให้ศาสนามัวหมอง ถ้ามีคนจะตาย แล้วจำเป็นต้องขับไปส่งโรงพยาบาลก็อนุโลมกันได้ เพราะเป็นเหตุจำเป็น แต่ถ้าไปกิจที่ไม่เร่งรัดจำเป็น ยังพอเลื่อนวันเลื่อนเวลาได้ก็หาคนขับมาขับให้ อย่าขับเองเลย เพราะมันมีแต่เสียภาพลักษณ์ของศาสนา

ไหนว่านักบวชงดเว้น ละ เลิกซึ่งกิเลสต่างๆแล้ว “บวช” แปลว่าเว้นจากความนึกคิด ใฝ่ฝันกระทำอย่างฆราวาส แต่การขับรถมันเป็นเรื่องของฆราวาส ทำไมถึงมีอารมณ์อยากขี่อยากขับ บางรูปก็เหลือเกินมีคนขับให้ก็ไม่อยากจะให้ขับ แต่อยากจะขับเสียเอง ตรงนี้เพราะขาดสมณสัญญาอย่างสุดๆ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ควรจะทำหรือไม่

เอาล่ะ ยังไงเหตุการณ์นี้คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้พระคุณเจ้าทั้งหลายหยุดคึกคะนอง อย่าประลองความเร็ว อยากประลองว่าตัวเองยังเก่ง ยังขับคล่องอยู่หรือไม่ ถึงจะเก่ง จะขับยังไง “สิบเท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” ฝีมือที่ว่าแน่ๆ ก็พังมาหลายรายแล้ว ขอให้อันนี้เป็นรายสุดท้ายก็แล้วกัน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login