- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 1 month ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 1 month ago
- โลกธรรมPosted 1 month ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 1 month ago
- สลายความเกลียดชังPosted 1 month ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
‘อินโดฯ’สกัดเงิน‘ก่อการร้าย’

อินโดนีเซียและออสเตรเลีย ยกระดับความร่วมมือด้านการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอเอส รวมทั้งร่วมกันสกัดเส้นทางเงินสนับสนุนอย่างเข้มข้น ไม่ให้ไปถึงมือของกลุ่มนี้
ด้วยสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายมากขึ้น โดยหน่วยการข่าวมีข้อมูลว่า ชาวอินโดนีเซียที่เป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายไอเอส ซึ่งมีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย เดินทางกลับจากซีเรียและประเทศอื่นในตะวันออกกลาง เข้ามายังอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 2 เท่า ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
ทำให้อินโดนีเซียและออสเตรเลียต้องยกระดับความร่วมมือ โดยอินโดนีเซียอนุญาตให้ตำรวจออสเตรเลีย เข้ามาร่วมทำงานปราบปราม และป้องกันการก่อเหตุโจมตีภายในประเทศ
ความร่วมมือที่สำคัญส่วนหนึ่ง ได้แก่ การเปิดโครงการ “Partnership Program 2017” ระยะ 7 ปี ระหว่างศูนย์ข้อมูลธุรกรรมทางการเงินและต่อต้านการฟอกเงิน (PPATK) ของอินโดนีเซีย และศูนย์ปฏิบัติงานประเภทเดียวกันของออสเตรเลีย (Austrac)
เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ศูนย์ จะร่วมกันทำงานตามโครงการนี้ โดยเตรียมจัดทำแผนปฏิบัติการใหม่ 6 แผน เพื่อตัด “ท่อน้ำเลี้ยง” ทางออนไลน์ และติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย ทั้งในอินโดนีเซียและออสเตรเลีย
ส่วนหนึ่งของแผนใหม่ที่เตรียมดำเนินการดังกล่าว ได้แก่ การส่งผู้เชี่ยวชาญไอทีจากศูนย์ Austrac มาฝึกเจ้าหน้าที่ศูนย์ PPATK เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูล และติดตามขบวนการฟอกเงิน ที่เคลื่อนไหวอยู่ในโลกไซเบอร์
นอกจากนั้น ทั้ง 2 ศูนย์จะเพิ่มระดับการให้ข้อมูลธุรกรรมทางการเงินแก่กันมากขึ้น และร่วมกันปิดเส้นทางการเงินของกลุ่มก่อการร้ายในอินเทอร์เน็ต
ศูนย์ PPATK คาดว่า กลุ่มก่อการร้ายส่งเงินเข้าอินโดนีเซีย เป็นค่าจ้างหาสมาชิก และค่าเดินทางไปซีเรียและอิรัก ระหว่างปี 2014-2015 มากกว่า 10,000 ล้านรูเปีย (28 ล้านบาท)
ส่งมาจากออสเตรเลียประมาณ 6,000 ล้านรูเปีย (28 ล้านบาท) โดยกลุ่มที่ส่ง มีการเปิดเป็นองค์กรการกุศลบังหน้า
ตัวเลขดังกล่าว เป็นข้อมูลคาดการณ์ เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบยอดเงินที่แท้จริงได้ โดยในอินโดนีเซีย ตรวจพบเฉพาะส่วนที่ต่างชาติ ซึ่งสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย แฝงร่วมลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ จากนั้น ก็นำผลกำไรไปสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย
อินโดนีเซียและออสเตรเลียเชื่อว่า เงินทุนเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของกลุ่มก่อการร้าย หากขาดเงินทุน ก็ยากที่จะขับเคลื่อนแผนได้
You must be logged in to post a comment Login