- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ทำไมคนอเมริกันเลือก‘ทรัมป์’? / โดย ณ สันมหาพล
คอลัมน์ : โลกไม่หยุดนิ่ง
ผู้เขียน : ณ สันมหาพล
ความจริงควรใช้ชื่อ “อเมริกาสูญเสียอัตลักษณ์ประเทศได้อย่างไร” อัตลักษณ์ประเทศประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในฐานะผู้วางรากฐานและแบบอย่างประเทศทุนนิยมที่สร้างความมั่งคั่งได้อย่างทั่วถึง ประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพทั่วทุกภาคส่วน ประชาชนมีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ส่วนชื่อบทความเป็นของฮอลเกอร์ สต๊าร์ก (Holger Stark) ที่สรุปถึงเหตุผลที่ทำให้ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
สต๊าร์กเป็นผู้สื่อข่าวประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของ Der Spiegel นิตยสารรายสัปดาห์ชั้นนำของเยอรมนี ทำหน้าที่มาแล้ว 4 ปี ก่อนหน้านี้เป็นนักข่าวที่เขียนรายงานและบทความเกี่ยวกับสหรัฐอเมริกานาน 12 ปี บทความของเขาเล่าถึงเหตุการณ์เดือนมกราคมปีที่ผ่านมา เมื่อยืนท่ามกลางฝูงชนราว 1,000 คนที่นครเบอร์ลิงตัน รัฐเวอร์มอนต์ เพื่อฟังคำปราศรัยของทรัมป์ที่เริ่มปรากฏตัวหาเสียงก่อนจะมีการเลือกตั้งปลายปี
อากาศตอนนั้นหนาว เขายืนใกล้กับ 2 แม่ลูก แม่ไม่มีงานทำ ส่วนลูกชายทำงานในสถานเริงรมย์ เป็นคนชั้นล่างในรัฐทางทิศตะวันออกซึ่งสวยงามและมีความอยู่ดีกินดี ความแปลกใจคือ ทำไมคนอเมริกันชั้นล่างถึงสนับสนุนนักการเมืองอย่างทรัมป์ ซึ่งเป็นคนชั้นสูง ทั้งยังขวาจัด มักไม่เอื้ออะไรคนชั้นล่าง
คำตอบคือ ทั้งสองไม่ได้สนับสนุนทรัมป์ แต่สนับสนุนเบอร์นี แซนเดอร์ส ผู้เตรียมลงสมัครอีกคนที่มีนโยบายแหวกแนวเช่นเดียวกับทรัมป์ เหตุผลที่มาฟังทรัมป์ก็เช่นเดียวกับแซนเดอร์ส
ทรัมป์เป็นนักการเมืองที่พูดตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมเหมือนนักการเมืองคนอื่นๆ รวมทั้งฮิลลารี คลินตัน ที่ประกาศลงสมัคร ซึ่งสองแม่ลูกกล่าวว่ามีนิสัยทุจริต เห็นจากข่าวที่ใช้อีเมล์ส่วนตัวทำงาน ฝ่ายลูกชายอธิบายว่า รู้สึกวิตกอำนาจและอิทธิพลที่บริษัทค้าขนาดใหญ่กับการกระจุกตัวความมั่งคั่ง ทำให้ขาดโอกาสจะยกระดับชีวิต
สต๊าร์กระบุว่า เป็น 3 ประเด็นที่ระยะหลังคนอเมริกันรวมตัวกันสู้เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจนมีประธานาธิบดีแบบไม่เคยมีมาก่อนว่า การจะเข้าฟังทรัมป์ปราศรัยทุกคนต้องถูกตรวจอาวุธ จากนั้นจะถูกถามว่าจะหย่อนบัตรให้ทรัมป์หรือไม่ ถ้าตอบว่าไม่จะถูกห้ามไม่ให้เข้า ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำให้เห็นความเสื่อมโทรมเรื่องสิทธิเสรีภาพอย่างมากในประเทศนี้
โดยเฉพาะทางการเมืองที่ให้ฝ่ายที่มีความเห็นตรงกันข้ามสามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ แต่หลายคนก็เล็ดลอดเข้าไปได้
นี่คือที่มาที่สต๊าร์กชี้ให้เห็นถึงภาวะจิตใจและทัศนคติของผู้นำสหรัฐคนใหม่คือ เวลามีใครตะโกนก่อกวนการปราศรัย เขาจะสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับตัวทันที แล้วให้ถอดเสื้อกันหนาวและยึดไว้ ก่อนจะไล่ออกไป ซึ่งขณะนั้นอุณหภูมิติดลบ 6 องศาเซลเซียส
ตลอดเวลาที่ทรัมป์ตะโกน ผู้สนับสนุนจะลุกขึ้นยืนพร้อมเป่าปากและพูดด่าทอ เป็นบรรยากาศที่ไม่ต่างจากการชุมนุมของกลุ่มคนที่เหยียดผิวในอดีตเพื่อชิงผู้ต้องหาคนดำที่ถูกจับกุมไปประชาทัณฑ์
เย็นวันนั้นสิ่งที่สต๊าร์กได้เห็นในดินแดนทุนเสรีนิยมแห่งนี้คือ ความเคียดแค้นของชาวอเมริกันที่มีต่อคนชั้นสูงมาก ขนาดพวกนิยมซ้ายยังลงคะแนนเสียงให้มหาเศรษฐีคนนี้ เหตุผลเพียงเพราะอยากได้ผู้นำที่ต่างจากในอดีต เพราะเชื่อว่าจะมีผลตอบรับที่ดีตามมา นอกจากนี้ประชาชนจะสามารถแสดงความเห็นได้อย่างเสรีที่สุด
ขณะนั้นการปราศรัยเพื่อเตรียมตัวลงสมัครประธานาธิบดีคนใหม่ของทรัมป์มีการสอบถามความเห็นผู้ที่จะเข้าฟังเพื่อคัดกรองฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งคนอเมริกันส่วนใหญ่ที่มักเป็นคนสุภาพ แต่ขณะนี้มีจำนวนไม่น้อยที่พบว่าคนที่มีความเห็นตรงกันข้ามก็ไม่รีรอที่จะร่วมเผชิญหน้า
หมายความว่าอเมริกาในวันและเวลานั้นไม่ใช่อเมริกาที่สต๊าร์กเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว
อะไรทำให้เป็นเช่นนี้ เพื่อหาคำตอบสต๊าร์กเดินทางไปยังรัฐที่เขาคุ้นเคย เพื่อดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นในรัฐเหล่านั้นตั้งแต่เขาเริ่มไปเยือน 4 ปีที่แล้ว ผลคือทุกรัฐต่างมีอาการบอบช้ำจากวิกฤตทุกด้านจนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ทำให้คนอเมริกันไม่ใช่คนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงอย่างที่เคยเป็น
ตรงกันข้ามความเชื่อมั่นได้ลดลงต่ำจนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นประเทศแบบไหนและกำลังทำอะไร ถ้าจะพูดอีกอย่างก็คือ การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบทุนนิยมที่สหรัฐเป็นผู้บุกเบิกและเป็นแบบอย่างนั้น ต่อไปนี้จะไม่สามารถทำให้ประชาชนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ไม่สามารถทำให้ประชาชนสร้างตัวเองตามที่หวัง และไม่สามารถรับประกันความสงบสุขภายในประเทศได้
ทั้งหมดอาจสรุปได้ด้วยประโยคสั้นๆว่า “American Dream” หรือ “ความฝันอเมริกัน” นั้นได้สูญหายไปจากประเทศนี้แล้ว!
You must be logged in to post a comment Login