วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

โจรกระจอก / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On February 7, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ข่าวในโซเชียลมีเดียแพร่สะพัดว่า สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จะได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ในรัชกาลที่ 10 เนื่องจากท่านไม่มีข่าวเสื่อมเสีย หรือแสดงความโน้มเอียงไปฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด พ.ร.บ.สงฆ์ที่แก้ไขไม่จำเป็นที่สมเด็จพระสังฆราชจะต้องมีเป็นสมณศักดิ์สูงสุด หรืออาวุโสสูงสุด

วัดราชบพิธฯ เคยมีสมเด็จพระสังฆราชในอดีตแล้ว 2 พระองค์ หากจะมีการแต่งตั้งอีกคงจะไม่มีใครคัดค้าน หรือโต้แย้งอะไร ทั้งเรื่องความเหมาะสมและอื่นๆ

ผู้สนับสนุน สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ก็ต้องทำใจ เพราะถ้าเป็นพระราชประสงค์ ก็ไม่ควรจะมาทะเลาะขัดแย้งกัน จะไม่เจริญหู เจริญตา เจริญใจกับชาวพุทธ

ถ้าอะไรมันวุ่นวายก็ต้องช่วยกันปัดเป่าบรรเทาให้เบาบาง เพราะบ้านเมืองเรามันวุ่นวายมาเยอะแล้ว ทั้งทางโลก ทางธรรม เราเจ็บช้ำบอบช้ำกันจนประเทศชาติเสื่อมเสีย

อีกเรื่องที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์คือ “โจรกระจอก” คำพูดนี้ถูกใช้มาในยุคหนึ่งก่อนที่ผู้ก่อความไม่สงบในชายแดนภาคใต้จะบุกปล้นปืนในค่ายทหาร เลยกลายเป็นโจรไม่กระจอก ทุกวันนี้ก็ยังไม่ลดราวาศอก แต่น้ำท่วมก็ทำให้เบาบางลงไป เพราะทำอะไรไม่สะดวก

อย่างกรณีรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ไปลักขโมยภาพที่ติดฝาผนังของโรงแรม อย่างนี้ก็เรียกว่าเป็นโจรกระจอกเหมือนกัน ฟังแล้วก็จุกลิ้นปี่ เป็นเรื่องที่ลำบากใจกันเหลือเกิน เพราะทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของประเทศชาติ จะมาบอกว่าเสียใจก็ไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าจะได้บำเหน็จบำนาญหรือเปล่า แม้จะลาออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม เป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จึงไม่ได้เสียแต่ชื่อเสียง แต่ยังเสียโอกาสที่จะเติบโตและรายได้

ไม่เหมือนชาวนา น้ำท่วม น้ำแล้ง นาก็ล่ม ไม่มีข้าวทั้งกินทั้งขาย แม้ว่าบางปีน้ำดี ฝนดี แต่เจอแมลงมากินก็เสียหายหมด ไม่เหมือนข้าราชการ น้ำท่วมก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม ฝนแล้งก็ได้เหมือนเดิม ไม่มีแมลงมากินเงินเดือนข้าราชการ นอกจากจะให้หวยกินหรือเหล้ากิน

เรื่องรองอธิบดีมือฉกจึงมีคนวิพากษ์วิจารณ์และรอฟังข่าวว่าจะตัดสินความผิดอย่างไร ซึ่งรองอธิบดีก็โทษเหล้า เพราะไปเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนแล้วเมาเลยเผลอสติ ขาดสติ เลยโทษเหล้า เหมือนเมาแล้วขับรถชนคนตาย หรือนายตำรวจยศ พ.ต.อ. เมาจนไม่ตื่นไปประชุม

เมืองไทยมีคนแปลกๆแบบนี้ แต่เอาล่ะ พูดเรื่องศาสนาก็อยากบอกเรื่องเหล้าก็ไม่ดีเช่นกัน คนฉลาดไม่เสียเวลากิน เหล้ากินคนหรือคนกินเหล้า ถ้าคนกินเหล้า เขาจิบนิดหน่อยพอเป็นกษัยยาร้อนท้อง แต่ถ้าเหล้ากินคน มันกินทั้งสตางค์ สติและสุขภาพ

เพราะฉะนั้นก็ขอให้ระมัดระวังให้มองเห็นโทษเห็นภัย พระพุทธเจ้าตรัสว่า สุรามีโทษเสียทรัพย์ เสียสุขภาพ เสียสติปัญญา เสียยางอาย เสียภาพลักษณ์ความเป็นคนดี ก็ขอให้เอาบทเรียนเมาแล้วขับรถเมาชนคนตายและเมาแล้วไปขโมยภาพเขานั้น เป็นแบบอย่างที่ไม่ควรทำ

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login