- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
โชว์ห่วย / โดย ศิลป์ อิศเรศ
คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ
คณะแสดงบนเวทีที่มีฝีมือการแสดงเหนือกว่าคณะอื่นๆเท่านั้นที่สามารถเปิดการแสดงอย่างต่อเนื่องได้นานหลายสิบปี แต่ใครจะเชื่อว่าคณะแสดงฝีมือยอดแย่ที่สุดเท่าที่โลกใบนี้เคยมีมาก็สามารถเรียกคนดูจนทะลักโรงละครได้ทุกรอบเช่นเดียวกัน และยังสามารถเปิดการแสดงได้ยาวนานกว่า 40 ปี
โชห่วยเป็นภาษาจีนฮกเกี้ยนแปลว่าร้านขายของชำ แต่โชว์ห่วยที่กำลังจะกล่าวถึงเป็นการแสดงบนเวทีที่ผู้แสดงไร้ความสามารถในการแสดงโดยสิ้นเชิง หากคิดว่าคนคงไปดูนักแสดงที่มีหน้าตาดี หรือมีการลงทุนเสื้อผ้าหน้าผมอย่างอลังการแล้วละก็ ขอบอกว่าเดาผิดทั้งหมด
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 1896 เมื่อออสการ์ แฮมเมอร์สไตน์ เจ้าพ่อวงการโรงละครและโอเปร่า ประสบปัญหาเงินทุนหมุนเวียน ไม่มีเงินจ้างนักแสดงระดับแถวหน้า เขาจึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำธุรกิจ หากไม่ได้นักแสดงสุดโต่งทางด้านบวกก็ขอใช้นักแสดงสุดโต่งทางด้านลบ เพราะค่าตัวถูกกว่ามากมายมหาศาล
ตะกายดาว
โทมัสและลอร่า เชอร์รี่ เป็นชาวไร่อาศัยอยู่ในเมืองแมเรียน รัฐไอโอวา มีบุตร 8 คน แต่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก 2 คน เหลือบุตรสาว 5 คนคือ เอลล่า เอลิซาเบธ แอดดี้ เอฟฟี่ และเจสซี่ และบุตรชาย 1 คนชื่อ นาธาน.
กลางทศวรรษ 1880 โทมัสและลอร่าเสียชีวิต แต่แทนที่นาธาน ลูกชายเพียงคนเดียวจะทำหน้าที่ดูแลไร่แทนบิดา เขากลับหอบเสื้อผ้าออกจากบ้าน ปล่อยพี่ๆน้องๆที่เป็นผู้หญิงล้วนอยู่กันตามลำพัง
5 สาวพี่น้องพยายามช่วยกันทำไร่ตามลำพัง 2-3 ปี แต่ดูเหมือนว่าจะไปไม่รอด พวกเธอจึงล้อมวงปรึกษากันว่าเบนเข็มไปทำอะไรที่เหมาะกับชีวิตสาวๆจะดีกว่า ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่ามุ่งสู่ธุรกิจการแสดงเป็นคำตอบสุดท้าย
ปี 1893 พวกเธอเช่าโรงละครในเมืองแมเรียน จัดการธุรกิจทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง ตั้งแต่ออกแบบการแสดง อำนวยการแสดง ตลอดจนถึงแจกใบปลิว การแสดงเป็นลักษณะการแสดงสลับฉาก มีหลายรูปแบบสลับกันไปประเภทร้องรำทำเพลงและละครสั้นในนามคณะ Cherry Sisters
พวกเธอไม่มีพรสวรรค์ ไม่มีประสบการณ์ และไม่มีความรู้ใดๆเกี่ยวกับการแสดงแม้แต่น้อย ทั้งหมดที่ทำลงไปเพียงเพราะใจรักล้วนๆ แต่ดูเหมือนว่าชาวเมืองแมเรียนจะมีรสนิยมชอบของแปลก การแสดงเป็นที่กล่าวขานถึง บัตรเข้าชมจำหน่ายหมดทุกรอบ
ทำใจไม่ได้
การประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในบ้านเกิดทำให้ Cherry Sisters กล้าตัดสินใจก้าวไปอีกขั้นด้วยการเช่าโรงละครกรีนส์โอเปร่าในเมืองซีดาร์แรพิดส์ แต่ดูเหมือนคนในเมืองใหญ่จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากคนในเมืองแมเรียน
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Cedar Rapids Gazette เขียนบทความวิจารณ์ตรงไปตรงมา ประณามการแสดงของ Cherry Sisters ว่าไม่ต่างไปจากละครลิง พวกเธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ร้องเพลงก็แย่ การแสดงก็ห่วยแตก
แม้ผู้ชมจะโห่ไล่แต่พวกเธอก็ยังคงแสดงต่อไป บางคนทนไม่ไหวขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ เหตุการณ์โกลาหลเหมือนอยู่ในโรงพยาบาลผู้ป่วยโรคจิต จากนั้นก็ตบท้ายบทวิจารณ์ด้วยการเหยาะคำชมในทำนองว่าเป็นการแสดงที่อาจเพียงพอกับผู้ชมบ้านเกิดของพวกเธอ แต่ในเมืองซีดาร์แรพิดส์คงต้องพยายามมากกว่านี้
แพ้กระแสสังคม
Cherry Sisters ไม่แฮปปี้กับบทวิจารณ์ เธอยื่นฟ้องเฟรด เดวิส บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Cedar Rapids Gazette ในวันนัดไต่สวนคดี เหล่าบรรดาติ่ง Cherry Sisters นัดกันรวมตัวหน้าศาลกู่ร้องให้กำลังใจ
คำพิพากษาเอาใจกระแสสังคมอย่างฮาจนใครก็คงคิดไม่ถึง ศาลตัดสินว่าเฟรดมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา ต้องโทษด้วยการทำหน้าที่ดูแลไร่ของ Cherry Sisters ทุกครั้งที่พวกเธอต้องเดินทางไปเปิดการแสดงต่างเมือง และต้องนำบุตรชายมาให้สาวๆตระกูลเชอร์รี่เลือกเป็นคู่ชีวิตเพื่อเกี่ยวดองเป็นญาติลดความบาดหมางระหว่าง 2 ตระกูล แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายแล้วสาวๆ Cherry Sisters ก็ไม่มีใครได้แต่งงานสักคน
Cherry Sisters ขยับไปอีกขั้น เปิดการแสดงที่เดฟพอร์ตส์เบอร์ติสโอเปร่า ชื่อเสีย(ง)ของพวกเธอส่งผลให้ผู้จัดการโรงละครต้องติดประกาศห้ามพกอาวุธและก้อนหินเข้ามาในโรงละคร เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการแสดง
กระถางดอกไม้ให้เธอ
หลายเดือนต่อมา Cherry Sisters เปิดการแสดงในเมืองดูบิวก์ ความไม่พอใจของผู้ชมยกระดับจากความโกลาหลกลายเป็นจลาจลย่อยๆ ผู้ชมขว้างปาสิ่งของที่ส่วนใหญ่เป็นพืชผลทางการเกษตรเข้าใส่นักแสดง ร้านขายผักละแวกโรงละครต้องกักตุนสินค้าเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น
Cherry Sisters เดินสายเปิดการแสดงไปยังรัฐต่างๆจนกระทั่งถึงนิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่ที่พวกเธอได้พบกับออสการ์ แฮมเมอร์สไตน์ เจ้าพ่อวงการโรงละคร ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เขากำลังมองหานักแสดงยอดแย่ที่สุดในสามโลก
คอลัมน์วิจารณ์ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สบรรยายว่า การแสดงเริ่มต้นโดยมีร่างผอมกะหร่องเป็นไม้เสียบผี 3 ร่าง และร่างอ้วนเตี้ย 1 ร่าง ปรากฏกายกลางเวที พวกเธออยู่ในชุดคลุมสีแดงที่ดูเหมือนตัดเย็บโดยไม่มีการออกแบบ เชื่อได้ว่าพวกเธอตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยตัวเอง
พวกเธอร้องเพลงประสานเสียงเพลงเปิดการแสดงที่แต่งขึ้นเอง และตามด้วยเพลงไอริช ในน้ำเสียงประหนึ่งเสียงตะไบเหล็กของช่างทำกุญแจ หลังจากนั้นก็ตามด้วยละครสั้นที่พวกเธอประพันธ์ขึ้นมาเอง
ร้ายกลายเป็นดี
ผู้ชมตกตะลึงกับการแสดงของ Cherry Sisters หลังจากมั่นใจว่าไม่ใช่มุก พวกเขาก็เริ่มปรบมือ ตะโกนเชียร์ และไม่เพียงแค่นั้น พวกเขาบอกต่อๆกันให้เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง มาชมการแสดงที่ห่วยที่สุดในโลก
ธุรกิจโรงละครของออสการ์รอดมาได้ก็เพราะการแสดงยอดแย่ เขาขยับขยายส่ง Cherry Sisters ไปเปิดการแสดงในแคลิฟอร์เนีย พร้อมกับข้อความโฆษณา “การแสดงของ Cherry Sisters ห่วยยิ่งกว่าเดิมเท่าที่เคยมีมา”
การแสดงในเมืองดิมอยน์ รัฐไอโอวา มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อริชาร์ด คลาร์กสัน เจ้าของหนังสือพิมพ์ Des Moines Register ขว้างหัวกะหล่ำปลีใส่นักแสดงแต่พลาดไปถูกลาฟาแยตต์ ยัง นักการเมืองท้องถิ่น ทำให้เหตุการณ์กลับตาลปัตร กลายเป็นการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่กันเองในหมู่คนดู
หนังสือพิมพ์ Odebolt Chronicle เขียนบทความวิจารณ์การแสดงของ Cherry Sisters ในทำนองว่าการแสดงสุดแย่ ขณะที่นักแสดงมีรูปลักษณ์ไม่แตกต่างไปจากแม่มด
ว่าไปตามเนื้อผ้า
Cherry Sisters ฟ้องร้อง Odebolt Chronicle ในวันนัดเบิกความศาลสั่งให้ Cherry Sisters แสดงให้ดูต่อหน้าศาลเป็นตัวอย่าง หลังจากเห็นการแสดงศาลมีคำสั่งยกฟ้องโดยทันที แต่ Cherry Sisters ไม่ยอมแพ้ ยื่นอุทธรณ์และฎีกา แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม
Cherry Sisters เดินสายเปิดการแสดงทั่วอเมริกาจนถึงปี 1903 เจสซี่ก็เสียชีวิตด้วยโรคไทรอยด์และมาลาเรีย ทำให้ Cherry Sisters กลับคืนสู่บ้านเกิด หันเหมาทำธุรกิจเบเกอรี่
ปี 1918 Cherry Sisters ตัดสินใจรวมตัวกันอีกครั้ง คราวนี้โจทก์เก่าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Cedar Rapids Gazette เขียนเชียร์ด้วยความจริงใจ ยกย่องให้เป็นบุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับท้องถิ่น
ธุรกิจเบเกอรี่ย่ำแย่ ผลักดันให้ Cherry Sisters ขึ้นเวทีเต็มตัวออกเดินสายไปตามเมืองต่างๆอีกครั้ง จนกระทั่งเอลล่าเสียชีวิตในปี 1934 ตามด้วยเอลิซาเบธในปี 1936 สมาชิกที่เหลือไม่สามารถเปิดการแสดงได้อีก เอฟฟี่และแอดดี้ถูกส่งไปยังบ้านพักคนชรา ปิดฉากคณะแสดงยอดแย่ที่สุดในสามโลก
You must be logged in to post a comment Login