- อย่าไปอินPosted 9 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
‘ทรัมป์’ท่าทีที่เปลี่ยนไป
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ มีพัฒนาการด้านนโยบายต่างประเทศที่น่าสนใจ เป็นพัฒนาการที่ช่วยให้สถานการณ์ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาคมโลกในอนาคต ดูผ่อนคลายลงระดับหนึ่ง
พัฒนาการดังกล่าวของผู้นำสหรัฐ ปรากฏต่อสายตาชาวโลก ระหว่างต้อนรับนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทรัมป์มีท่าที “ซอฟต์” ลง
แตกต่างจากช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่ทรัมป์ใช้วาทกรรมสร้างภาพลักษณ์ของตนให้ดูเด็ดเดี่ยว แข็งกร้าว โจมตีหลายประเทศที่เห็นว่าเอาเปรียบสหรัฐ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และประกาศว่าจะ “จัดการ” ประเทศเหล่านั้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาวอเมริกันตามนโยบาย “America First”
สำหรับญี่ปุ่น นอกจากทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวจากสัญญาการค้าเสรี Trans-Pacific Partnership (TPP) ซึ่งสหรัฐเคยร่วมผลักดันกับญี่ปุ่นแล้ว
ทรัมป์ยังโจมตีญี่ปุ่นว่า เอาเปรียบสหรัฐด้วยการตั้งแพงภาษีนำเข้าเนื้อโคและหมูจากสหรัฐ รวมทั้งใช้มาตรการแยบยลเพื่อกีดกันการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์จากสหรัฐ ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้าแต่ละปีจำนวนมหาศาล
อีกส่วนหนึ่งที่ทรัมป์โจมตีญี่ปุ่น โดยระบุว่าญี่ปุ่นใช้กลยุทธ์แทรกแซงค่าเงินอย่างไม่เป็นธรรมดา ทำให้เงินเยนอ่อนค่ามากกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้ญี่ปุ่นได้เปรียบด้านการค้ากับสหรัฐ และประกาศจะงดช่วยเหลือญี่ปุ่นด้านการทหาร หากญี่ปุ่นไม่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
ทรัมป์ทิ้งท้ายไว้ว่า จะจัดการกับญี่ปุ่นด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาดเกี่ยวกับเรื่องที่ระบุทั้งหมด
แต่หลังต้อนรับผู้นำญี่ปุ่น ทรัมป์แสดงท่าทีเป็น “หนังคนละเรื่อง” โดยไม่เอ่ยถึงประเด็นที่ทรัมป์มองว่าญี่ปุ่นเอาเปรียบแม้แต่เรื่องเดียว
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เรียกร้องให้ญี่ปุ่นทำสัญญาการค้าเสรีกับสหรัฐ ซึ่งมองกันว่าเป็นแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวของทรัมป์ โดยคณะรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศ ประเดิมการทำงาน ด้วยการหารือเพื่อกำหนดแผนแม่บท สำหรับใช้ศึกษารายละเอียดก่อนทำข้อตกลงในอนาคต
ด้านความมั่นคง ทรัมป์ยืนยันว่าจะเพิ่มระดับความร่วมมือกับญี่ปุ่น และเพิ่มบทบาทของสหรัฐในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้มากขึ้น เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพให้คงอยู่ต่อไป
คำยืนยันของผู้นำสหรัฐ ช่วยให้ญี่ปุ่นโล่งใจคลายกังวล หลังเคยวิตกกับความไม่แน่นอนของทรัมป์มาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ หากสหรัฐถอนกองกำลังออกจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่นรวมทั้งเกาหลีใต้จะตกที่นั่งลำบากในการคานอำนาจกับจีน
You must be logged in to post a comment Login