- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 11 hours ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 7 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
พีดีเฮ้าส์ มั่นใจยอดขาย Q1 แตะ 300 ล้าน
นางสาวถิรพร สุวรรณสุต ผู้จัดการฝ่ายตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและวัสดุก่อสร้าง 2560 (THBF 2017) ที่เพิ่งสร็จสิ้นลงเมื่อเร็วๆ นี้ว่าความต้องการสร้างบ้าน และกำลังซื้อผู้บริโภคในไตรมาสแรกปีระกา ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ประเมินจากยอดจองปลูกสร้างบ้านของบริษัทฯ เฉพาะในช่วง 5 วันของการงานฯ มูลค่ารวม 184 ล้านบาท แบ่งเป็นลูกค้าปลูกสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล คิดเป็นมูลค่า 82 ล้านบาท และต่างจังหวัดมูลค่า 102 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอีกจำนวนหนึ่ง ที่ตัดสินใจไม่ทันภายในวันงานฯ และมีการเจรจากันต่อ โดยคาดว่าจะปิดจองได้อีกไม่น้อยกว่า 100-120 ล้านบาท เบ็ดเสร็จน่าจะมียอดขายจากงานฯ นี้ประมาณ 300 ล้านบาทเศษ ซึ่งแม้ว่ายอดขายจะต่ำกว่าเป้าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่พอใจในสถานการณ์ปัจจุบัน
“จากการสำรวจตลาดบ้านสร้างเองในต่างจังหวัดเมื่อเร็วๆ นี้บริษัทฯ พบว่ามีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันในธุรกิจสร้างบ้านกันมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน อาทิ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ อุดรธานี เลย และอุบลราชธานี ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ประกอบการเหล่านี้ ผันตัวเองมาจากผู้ค้าวัสดุและผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป ตลอดจนสถาปนิกหรือพนักงาน ที่เคยทำงานอยู่กับบริษัทรับสร้างบ้าน ลาออกมาเปิดธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นของตัวเอง ส่งผลให้ตลาดบ้านสร้างเองในหลายๆ จังหวัดภาคอีสานมีการแข่งขันราคากันดุเดือด ในขณะที่ตลาดบ้านสร้างเองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่าการแข่งขันราคากลับไม่รุนแรงเท่า ซึ่งมีเพียงบริษัทรับสร้างบ้านกลุ่มผู้นำตลาด 2-3 รายเท่านั้น ที่ยังคงโฆษณาและประชาสัมพันธ์พร้อมเน้นจัดโปรโมชั่น ลด แจก แถม เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องในช่วงแรกของไตรมาสนี้”
สถานการณ์ดังกล่าว ทั้งจากมูลค่าสร้างบ้านต่อหน่วยที่สูงขึ้น สัดส่วนลูกค้าปลูกสร้างบ้านในเขตกทม.และปริมณฑลที่เติบโตขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ ที่ลดโทนการแข่งขันราคาลง อาจสะท้อนได้ว่าแนวโน้มและทิศทางตลาดบ้านสร้างเองน่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน อย่างไรก็ดี ปีนี้บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการปรับตัว เพื่อรับมือกับการแข่งขันในยุค 4.0 และเตรียมความพร้อมขยายตลาดทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านตามแผน 5 ปีที่วางไว้ นางสาวถิรพร กล่าวสรุป
You must be logged in to post a comment Login