- อย่าไปอินPosted 22 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ก่อนจะบานปลาย
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
การใช้กำลังทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมแล้วกว่า 20 กองร้อย พร้อมใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 44 ประกาศให้พื้นที่วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ เพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมตัว พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้วจนถึงวันนี้ มีข้อคิดเห็นมุมมองหลายแง่มุม
แน่นอนว่ามุมหนึ่งนั้นสะใจ ชอบใจที่เห็นการดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อรักษากฎหมาย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เพราะการรักษากฎหมายการทำให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
แต่อีกมุมหนึ่งก็กระตุกเตือนให้ผู้มีอำนาจได้ฉุกคิดในหลายแง่มุมว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ ดำเนินการอยู่เกินกว่าเหตุหรือไม่
หากพิจารณาตามหมายจับพระธัมมชโย ที่เกิดจากคดีร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง รับเงินที่เกิดจากการทุจริตของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวนกว่า 1,400 ล้านบาท โดยถูกแจ้งข้อหา รวม 3 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับเมื่อตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2559
แม้จะมีคดีอื่นๆตามมา เช่น รุกป่าสงวน แต่คดีอันเนื่องมาจากการทุจริตของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นถือเป็นคดีหลัก
เมื่อพิจารณาจากข้อกล่าวหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจรกับการใช้กฎหมายพิเศษ ใช้กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้าดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้ตรวจค้นแล้วไม่พบผู้ต้องหาตามหมายจับ และการข่าวของฝ่ายรัฐก็ไม่ชัดเจนว่าผู้ต้องหาหลบหนีออกจากวัดไปแล้วหรือว่ายังอยู่ในวัด
จัดว่าเป็นการใช้อำนาจเกิน “พอดี” หรือไม่
ขณะนี้เหตุการณ์ลุกลามไปถึงการออกประกาศคำสั่งของ คสช.ให้พระ 14 รูปเข้ารายงานตัว และสถานการณ์พัฒนาจากการให้ความร่วมมือนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในจุดที่ต้องการเป็นการชุมนุมต่อต้านขัดขวาง
จากการให้ความร่วมมือมาเป็นการชุมนุมต่อต้านขัดขวางเหตุการณ์พัฒนามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร คนที่ติดตามเรื่องนี้น่าจะรู้คำตอบ
สถานการณ์จากนี้จะพัฒนาไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกมากขึ้นเมื่อจะมีการขยายวงใช้กฎหมายหลายฉบับเอาผิดกับพระ ลูกศิษย์ที่ชุมนุม และมีคำยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ยกเลิกการประกาศใช้มาตรา 44 เพื่อควบคุมพื้นที่ต่อไป และมีคำยืนยันด้วยว่าจะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการถึงจนถึงที่สุด
จะเห็นได้ว่าจากการเข้าตรวจค้นพื้นที่เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับกำลังจะบานปลายไปเป็นเรื่องอื่นๆ
กว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะสิ้นสุดจะต้องมีคนถูกดำเนินคดีอีกกี่มากน้อย ตั้งแต่คดีเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงความผิดที่มีอัตราโทษสูง
คำถามเดียวที่เจ้าหน้าที่รัฐควรตอบตัวเองให้ได้ในตอนนี้คือ หน่วยข่าว การข่าว ฝ่ายข่าวทั้งของทหาร ตำรวจ ดีเอสไอ ไม่มีหน่วยไหนยืนยันได้เลยหรือว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัดพระธรรมกายหรือไม่
ถ้ายังอยู่ อยู่จุดไหนเพื่อการเข้าตรวจค้นจะได้มุ่งไปให้ตรงเป้าหมาย ดำเนินการให้ทุกอย่างจบได้โดยเร็ว
หากไม่อยู่ในวัดแล้วหนีไปที่ไหนอย่างไร เพื่อจะได้ยุติปฏิบัติการ ยุติความขัดแย้งไม่ให้ขยายวงกว้างออกไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเดินลุยหน้าต่อ หรือยุติการตรวจค้น แต่ปฏิบัติการครั้งนี้ได้สร้างรอยแผลขึ้นในใจใครหลายคนแล้ว และยังได้ตอกย้ำถึงการใช้อำนาจที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับกรณีอื่นๆ
ทำหน้าที่เพื่อรักษากฎหมายก็เข้าใจได้
แต่วิธีปฏิบัติเมื่อเทียบกับข้อกล่าวหา และคดีความอื่นๆที่ร้ายแรงกว่าก็เป็นเรื่องที่เข้าใจยากว่าการปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายอะไรกันแน่
You must be logged in to post a comment Login