วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
ข่าวด่วน
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 23 hours ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
TDRI วิจัยพบเงินสะพัดวัดกว่าแสนล้าน
On February 22, 2017
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2017/02/TDRI.jpg)
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้เผยแพร่วิดีโอ (21 ก.พ.2560 )รายการ คิดยกกำลังสอง ซึ่งเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดย สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ได้นำงานวิจัย ของ ผศ.ดร.ณดา จันทร์สม จากคณะพัฒนาเศรษฐกิจ นิด้า เกี่ยวกับ การบริหารการเงินของวัด
![](https://c2.staticflickr.com/4/3928/32987156066_484e665a3c.jpg)
ชี้จุดรั่วระบบภาษีผ่านใบอนุโมทนาบัตร
“เมื่อถึงฤดูยื่นแบบภาษี ภงด.91 ก็ดี ภงด.90 ก็ดี อย่างแรกบุคคลธรรมดา จะลดหย่อนภาษีของตัวเองได้ถ้าเกิดมีใบอนุโมทนาบัตร ซึ่งออกมาจากวัด แต่ว่าที่ผมเห็นอยู่และได้ยินมา น่าเป็นห่วงเหลือเกินว่าในอนุโมทนาบัตรนั้น ส่วนใหญ่คนได้มาง่ายกันเหลือเกิน หลายคนก็ยืนใบโดยไปขอวัดมา วัดให้มาเป็นปึกเลยว่าโยมจะกรอกอะไรก็กรอกไป ซึ่งตรงนี้แสดงว่าเป็นจุดรั่วไหลสำคัญในระบบเสียภาษีของไทย แต่มันยังบอกอะไรอีกมากเกี่ยวกับวัดของไทยด้วย” สมเกียรติ กล่าว
เงินสะพัดวัดทั่วประเทศกว่าแสนล้าน
“วัดในเมืองไทยเอาเฉพาะวัดที่มีพระอยู่ปัจจุบันก็มีเกือบ 4 หมื่นวัด ทางอาจารณ์ ณดา จันทร์สม ไปสำรวจมาเมื่อปี 2555 พบว่า วัดโดยเฉลี่ยมีรายได้ปีละ 3.2 ล้านบาท และมีรายจ่ายประมาณ 2.8 ล้านบาท เมื่อคูณกับรายได้ของวัดกับจำนวนวัดที่่มีอยู่ในประเทศไทยก็คาดกันว่าแต่ละปีจะมีเงินหมุนเวียนในวัดประมาณ 1-1.2 แสนล้านบาท” สมเกียรติ กล่าว
![](https://c1.staticflickr.com/1/533/32646701400_a1f7b16d5a.jpg)
One Step เจ้าอาวาสเพียงคนเดียวตั้ง
สำหรับกลไกในการบริหารจัดการการเงินของวัดนั้น สมเกียรติ กล่าวว่า วัดแต่ละวัด ตั้งชาวบ้าน ฆราวาส ที่เรียกว่าไวยาวัจกร ซึ่งก็คือชาวบ้านที่ไปช่วยงานของวัด ส่วนใหญ่วัด 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ มีไวยาวัจกรเข้าไปช่วย แต่ว่าส่วนใหญ่เหมือนกันตั้งโดยเจ้าอาวาสเพียงคนเดียว แล้วก็มีคณะกรรมการวัดสำหรับวัดส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่ก็เป็นการตั้งโดยเจ้าอาวาสอีกเหมือนกันและคณะกรรมการวัดก็ไม่ค่อมีบทบาทมากมายในการดูแลเงินวัดสักเท่าไหร่ โดยสรุปแล้ววัดส่วนใหญ่ในประเทศไทยไม่ได้มีโครงสร้างดูแลบริหารเงินอย่างเป็นระบบ เรียกได้ว่าชาวบ้านไม่ค่อยได้เข้ามาเกี่ยวข้องเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นก็แปลว่าพระในวัดน่าจะดูแลกันเองในเรื่องเงิน
![](https://c1.staticflickr.com/3/2557/33028778465_a9d9ca6b59.jpg)
มาตรฐานวัดใครวัดมัน
หัวใจของเรื่องการเงินคือเรื่องบัญชี เรามาดูว่าวัดทำบัญชีรับจ่ายกันอย่างไร 74% บันทึกบัญชีรับจ่ายกันทุกวัด แปลว่าวัดส่วนใหญ่มีระบบบัญชีอยู่ แต่อย่าลืมว่า 1 ใน 4 ของวัดไม่บันทึกบัญชีรับจ่ายรายวัน และมีส่วนน้อยที่รายงานการเงินกันทุกเดือน คือเพียงประมาณ 25% ประมาร 60% มีการตรวจบัญชีโดยผู้ตรวจบัญชี แต่วัดที่เหลือก็ยังไม่มีผู้ตรวจบัญชี แม้กระทั่งวัดที่มีการทำบัญชีมีการทำรายงานการตรวจบัญชี แต่ว่าการทำบัญชีก็ทำโดยมาตรฐานของวัดใครวัดมัน ไม่ใช่บัญชีโดยมาตรฐานของสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ มีวัดเพียง 4% เองที่มีมาตรฐานบัญชีตามของ สนง.พุทธศาสนา มีวัดส่วนน้อยเพียง 36% ที่มีระบบตัดสินใจในการลงทุน วัดแต่ละวัดจะมีทีธรณีสงฆ์และทรัพย์สินเยอะ ก็ต้องมีกระบวนการดูแล แต่จำนวนมากก็ยังไม่มีระบบในการดูแล เพราะฉะนั้นถึงแม้วัดไทยทำบัญชี แต่บัญชีก็ไม่ค่อยได้มาตรฐาน ตรวจบัญชีไม่ทั่วถึง และไม่มีระบบบริหารทรัพยสินอย่างเป็นเรื่องเป็นราว” สมเกียรติ กล่าว
สมเกียรติ กล่าวด้วยว่า สำหรับตัวอย่างวัดที่มีการบริหารจัดการทางการเงินที่ดีนั้น เช่น วัดปทุมวนารม วัดสวนแก้ว วัดญารเวศกวัน เป็นต้น
![](https://c2.staticflickr.com/4/3915/33028778365_b1cc3f29e6.jpg)
แนะปฏิรูปทั้งระบบ
สมเกียรติเสนอปฏิรูปทั้งระบบเนื่องจากวัดไทยส่วนใหญ่ยังไม่มีระบบบริหารการเงินที่ดี เพราะฉะนั้นหน่วยงานที่กำกับดูแลวัดก็คือ สนง.พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรให้วัดรายงานการเงินตามมาตรฐานที่กำหนด มหาเถรสมาคมเอง ควรออกกฎตั้งกรรมการวัดให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในกระบวนการการคัดเลือก ไม่ใช่ให้เจ้าอาวาสเพียงคนเดียวทีไปตั้งกรรมการวัด รัฐและสังคมควรจะต้องช่วยฝึกผู้บริหารเงินให้วัดด้วย เพราะอาจไม่มีความรู้ว่าเข้าใจในการบริหารเงิน และประชาชนควรไปช่วยเป็นกรรมการวัดด้วย
You must be logged in to post a comment Login