วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ECF ปี 59 รายได้รวม 1,395 ล้านบาท

On March 1, 2017

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ภายใต้แบรนด์ ELEGA FINNA HOUSE เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2559 ว่า บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,395 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,358.30 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.7% และมีกำไรสุทธิจากงบการเงินรวม 65 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำไว้ประมาณ 70 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายทางการตลาด จากการทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย ประกอบกับในช่วงไตรมาส 4 /59 ที่ผ่านมา กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว นอกจากนี้ภาพรวมการส่งออกยังไม่เติบโตดีเท่าที่ควร ส่งผลต่อคำสั่งซื้อจากลูกค้าในประเทศไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการปรับกลยุทธ์ เพิ่มช่องทางจำหน่ายในประเทศให้มากขึ้น รับลูกต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่กำลังขยายตัวดี ชูแบรนด์ COSTA จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่ ๆ ให้มีความหลากหลาย ดีไซน์สวยงาม ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า ซึ่งเป็นกลุ่มฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และขยายสาขาภายใต้แบรนด์ ELEGA อีก 3 สาขาจากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 16 สาขา เปิดสาขาร้าน FINNA HOUSE จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ลิขสิทธิ์ DISNEY เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจุบันมี 5 สาขา ขณะเดียวกันบริษัทยังมีโอกาสสร้างการเติบโตของยอดขายจากออร์เดอร์ที่มากขึ้นตามการขยายสาขาของลูกค้ากลุ่มโมเดิร์นเทรด

ขณะที่ตลาดต่างประเทศแม้ขณะนี้จะยังไม่มีสัญญาณการเติบโตที่ดี แต่นับแต่ต้นปี คำสั่งซื้อเริ่มกลับมาดีอีกครั้ง ซึ่งบริษัทยังคงได้รับออเดอร์จากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่นอย่างสม่ำเสมอ แม้ในปีที่ผ่านมาจะชะลอตัวลงบ้าง อย่างไรก็ตามจะพยายามผลักดันให้สัดส่วนรายได้จากกลุ่มประเทศ AEC เพิ่มขึ้นที่ 10 % จากเดิม 5 % พร้อมกับออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเฟอร์นิเจอร์ อาทิ กระดาษปิดผิวที่มีรูปแบบใหม่ ๆ ดีไซน์แปลกตาจากเดิม เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ 55% ภายในประเทศ 45%
ส่วนธุรกิจร้านค้าปลีกรูปแบบร้าน 100 เยน “Can Do” จากประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้เปิดสาขาแล้วจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ เดอะ พาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก โฮมโปร รัตนาธิเบศร์ โฮมโปร ราชพฤกษ์ และอินเด็กซ์ ลีฟวิ่ง มอลล์ บางใหญ่ ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผน จะขยายสาขาเพิ่มอีก 6 สาขา ซึ่งเมื่อสร้างฐานรายได้ Can Do แข็งแกร่งแล้วจะพิจารณาเรื่องการเปิดขายแฟรนไชส์อีกครั้ง

นอกจากนี้ ECF ยังได้จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด (“ECF-P”) เพื่อลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานทุกประเภท อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และอื่น ๆ และลงทุนในบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ คือ บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด ที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจด้านโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ECF-P และ FPI ซึ่งได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า ไพร์ซ ออฟ วู้ด กรีน เอนเนอร์จี (PWGE) จำกัด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ขนาดกำลังการผลิต 7.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าว จากการขายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ปีละไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท

“บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตจากปีก่อน ทั้งรายได้จากธุรกิจหลักผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ คาดว่าจะเติบโตที่ 10 % ประกอบกับรายได้ต่างๆ ที่จะทยอยรับรู้ในปีนี้จากบริษัทย่อยทั้ง ECF-P และ ECFH ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้รายได้ของบริษัทมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” นายอารักษ์ กล่าว


You must be logged in to post a comment Login