- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 20 hours ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 2 days ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 3 days ago
- อย่าไปอินPosted 6 days ago
- ปีดับคนดังPosted 7 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
วาทกรรมทำลายล้าง / โดย Pegasus
คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus
คำพูดที่ใช้กดขี่กลุ่มอื่นให้ต่ำลงเหมือนไม่ใช่คนจะได้ใช้ความรุนแรงได้ง่ายๆตั้งแต่การทำร้ายจนถึงการสังหาร ด้วยการใช้วาทกรรมทำลายล้างต่างๆเพื่อปลุกระดมให้คนเลิกใช้ความคิด เหตุผล หรือตรรกะต่างๆ เหลือแต่ความเชื่อและความโกรธแค้นแบบไร้เหตุผลเท่านั้น
วิธีการที่นำไปสู่ความโหดร้ายเช่นนี้ปรากฏในยุคล่าแม่มดสมัยกลาง นาซีและคอมมิวนิสต์ในอดีต รวมถึงเกาหลีเหนือในปัจจุบัน ในสังคมไทยก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ตั้งแต่คำพูดเกี่ยวกับกบฏผีบุญที่ผู้มีคนเคารพนับถือจำนวนมากก็ถูกทดสอบจากอำนาจรัฐและถูกทำลายในที่สุด โดยเริ่มจากการโจมตีด้วยวิธีต่างๆ ก่อนจะนำไปสู่การใช้กำลังในที่สุด
วาทกรรมที่ใช้สร้างเรื่องและต่อมาก็เร่งเร้าให้คนที่ฟังคล้อยตามไปสู่การใช้ความรุนแรง ช่วงที่ผ่านมามักจะใช้วิธีการอิงสถาบันสำคัญที่ผู้คนอ่อนไหว ไม่ว่าสถาบันเบื้องสูงหรือสถาบันทางศาสนา เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการทำลายฝ่ายตรงกันข้ามทางการเมือง
ดังนั้น อาจสรุปได้ง่ายๆว่า สถานการณ์หรือเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นจนบ้านเมืองวุ่นวายเกิดจากการใช้วาทกรรมเพื่อทำลายศัตรูทางการเมืองเท่านั้น อ้างสถาบันต่างๆเพื่อเป็นเครื่องมือในการทำลายผู้ที่ด้อยกว่าทางการเมือง โดยผู้มีอำนาจที่เหนือกว่าก็จะได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์ต่างๆ
วาทกรรมเพื่อการทำลายล้างในสังคมไทยอาจย้อนถอยหลังไปได้หลายสิบปี แต่เท่าที่ได้ยินได้ฟังกันบ่อยครั้ง ได้แก่ วาทกรรมผังล้มเจ้า คนเลว คนดี ไพร่ ผู้ดี ประชาธิปไตยแบบไทยๆกับแบบสากล หรือนักการเมืองซื้อเสียง โคตรโกง เป็นต้น การทำลายกันทางด้านศาสนาก็จะเป็นพระสายบ้าน พระสายป่า และพุทธแท้พุทธเทียมอย่างขณะนี้ เป็นต้น
การใช้วาทกรรมทำลายล้างทั้งหมดนั้นก็เพื่อทำให้กลุ่มของตนมีความเป็นปึกแผ่น ไม่แตกแถว และกำจัดศัตรูทางการเมืองให้หมดสิ้นซากทางใดทางหนึ่งเท่านั้น การได้มวลชนหรือความนิยมมาไว้กับตัว เมื่อมีทั้งอำนาจทางการเมืองและการนำมวลชนก็สามารถจะทำให้เกิดผลประโยชน์ต่างๆให้กับคณะของตนเอง
วาทกรรมทำลายล้างในปัจจุบันที่ปรากฏคือการใช้คำพูดที่แฝงความเกลียดชัง ซึ่งเป็นหลักวิชาทางตะวันตกในการใส่ร้ายป้ายสี เช่น ควายนั่นนี่ มารนั่นนี่ จนกระทั่งคำว่าไพร่ อำมาตย์ ก็เป็นสัญลักษณ์เพื่อสร้างความเกลียดชังต่อกลุ่มหรือระบอบอื่นทั้งสิ้น
ในสมัยฮิตเลอร์ใช้คำเรียกชาวยิวให้ตกต่ำว่ามีสายเลือดไม่ดี ไปจนถึงระดับเป็นสัตว์เดรัจฉาน ในประเทศวรันดีเรียกเผ่าอื่นๆที่เป็นฝ่ายตรงข้ามเป็นแมลงสาบที่น่าขยะแขยง ซึ่งสามารถจะเหยียบให้ตายได้เพื่อมนุษย์จะได้อยู่เป็นสุข เป็นต้น
สถานการณ์ปัจจุบันในประเทศไทย วาทกรรมล้มเจ้าที่เคยใช้กันก่อนหน้านี้เมื่อใช้การไม่ค่อยได้ต่อไปก็มีการปรับเปลี่ยนมาสร้างให้เป็นเหมือนกลุ่มก่อการร้าย อย่างกลุ่มไอเอสในตะวันออกกลางที่บอกว่ากลุ่มตนเป็นคนบริสุทธิ์ ใครที่ไม่สามารถท่องจำเนื้อหาในคัมภีร์ที่แสดงถึงความเป็น “จีฮัดแท้” ได้ก็จะถูกฆ่าทิ้ง
สำหรับในไทยขณะนี้มีการใช้คำว่าพุทธแท้หรือพุทธเทียม ทั้งที่กลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นพุทธแท้จะมีพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรมมากมาย แต่การอ้างว่าตัวเองเป็นพุทธแท้ก็ทำให้มีภาพลักษณ์ที่ดีในสังคม ทำให้มีผู้เชื่อถือและสนับสนุน ความหลงเชื่อคำว่าพุทธแท้จึงเป็นวาทกรรมเพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง
เบื้องหลังวาทกรรมทำลายล้างต่างๆส่วนหนึ่งก็เพื่อล้างสมองและสร้างกลุ่มที่แตกต่างจากฝ่ายตรงข้ามเพื่อหวังผลทางการเมือง ทำให้กลุ่มของตนเข้มแข็งกว่ากลุ่มอื่นๆที่เป็นปฏิปักษ์
วาทกรรมทำลายล้างจึงไม่ใช่ความจริงแท้ แต่เพื่อสร้างกลุ่มและสร้างความแตกแยก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองสำหรับทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามและแสวงหาผลประโยชน์ให้กับพวกตน
การรู้เท่าทันวาทกรรมทำลายล้างที่เป็นสิ่งแปลกปลอมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต่อสู้และต่อต้านการกระทำของคนกลุ่มนี้หากต้องการทำให้สังคมมีความก้าวหน้าและสร้างสรรค์ ไม่ใช่รอความเมตตา แต่ประชาชนต้องตระหนักในความจริงและลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยตนเอง
You must be logged in to post a comment Login