- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
‘จบ’แบบ‘ไม่จบ’?

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
บ้านเมืองสัปดาห์นี้มีประเด็นร้อนให้ติดตามกันหลายเรื่อง
เรื่องแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีขายหุ้นชินคอร์ป จาก ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 16,000 ล้านบาท แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าไม่สามารถดำเนินการใดๆได้แล้ว
แต่ดูเหมือนว่าหลังมีข้อสรุปออกมาทำให้ฝ่ายตรงข้ามดร.ทักษิณ ทั้งที่อยู่นอกรัฐบาลและในรัฐบาลไม่พอใจ พากันออกมาขู่ว่าหากไม่เรียกเก็บภาษีในส่วนนี้จะต้องมีคนติดคุก และต้องมีคนจ่าย 16,000 ล้านบาท แทนดร.ทักษิณ
เมื่อเจอสถานการณ์นี้เข้าไปจึงน่าจับตาว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะกลับลำหรือไม่ เพราะเรื่องติดคุกกับจ่ายเงินแทนไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในยุคนี้
ก่อนคดีจะหมดอายุความในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ จึงต้องติดตามว่าที่สุดแล้วเรื่องเก็บภาษีจากดร.ทักษิณ จะได้บทสรุปสุดท้ายออกมาอย่างไร
เรื่องต่อมาที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์ของวัดพระธรรมกาย กับ พระธัมมชโย ที่ดูเหมือนว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อฝ่ายวัดเลือกแนวทางสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต
ทั้งนี้ เนื่องจากรู้ดีว่าเรื่องคดีความนั้นคงไปพลิกให้เป็นอย่างอื่นได้ยาก และหากยังตรึงสถานการณ์แบบนี้ต่อไปพระทั้งวัดจะมีคดีความติดตัว เรียกว่าอาจติดคุกกันหมดวัดก็ว่าได้ จึงทำให้ได้เห็นภาพวัดยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพื้นที่ได้อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าการตรวจค้นจะไม่พบพระธัมมชโย
เมื่อค้นแล้วไม่พบ เจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่เสียหน้าที่จะถอนกำลังกลับหลังจากปิดล้อมวัดมาตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา
ส่วนพระธัมมชโยไม่ว่าจะถูกคำสั่งให้สละสมณเพศหรือไม่ ก็คงล่องหนหายตัวไปค่อนข้างแน่นอน แต่การหายตัวไปจะไม่สบายเหมือนอดีตพระที่ถูกให้สละสมณเพศก่อนหน้านี้ คงต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ เพราะว่ามีคดีฟอกเงินซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนติดตัวอยู่
ถ้าจะหนีไปอยู่ต่างประเทศก็ต้องลุ้นว่าประเทศที่ไปอยู่จะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไทยหรือไม่ โดยทางรอดมีอยู่ทางเดียวคืองัดพยานหลักฐานสู้คดีในศาลประเทศนั้น เพื่อให้เห็นว่าคดีฟอกเงินที่เป็นชนักปักหลังอยู่เป็นข้อกล่าวหาเลื่อนลอยไม่มีน้ำหนัก
เรื่องวัดพระธรรมกายก็คงจบไปในแนวทางนี้
ประเด็นสุดท้ายที่ต้องจับตาดูในสัปดาห์นี้ คือ เรื่องการสร้างความปรองดองหลังจากที่พรรคการเมืองใหญ่น้อยตบเท้าให้ความเห็นต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองครบทุกพรรคแล้ว
เท่าที่ติดตามจากคำแถลงสรุปข้อเสนอของพรรคการเมืองแต่ละพรรคที่ผ่านมาพอสรุปได้ว่าสิ่งที่ทุกพรรคเสนอนั้นจะเน้นหนักไปในเชิงหลักการ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องเก่าที่พูดกันมาต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
สรุปคือเวทีรับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมือง รวมไปถึงเวทีที่ไปเปิดตามต่างจังหวัดจะไม่ได้ข้อเสนออะไรใหม่ๆ จึงต้องรอดูว่ารัฐบาลทหารคสช.จะนำข้อเสนอเก่าๆที่รู้กันมานานแล้วเหล่านี้ไปทำให้เกิดความปรองดองขึ้นในสังคมได้อย่างไร
แต่ดูแล้วไม่ง่าย เพราะสิ่งที่ปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ มีหลายเรื่องที่สวนทางกับหลักการที่จะทำให้เกิดความปรองดอง
สรุปสัปดาห์นี้เรื่องพระธัมมชโย เรื่องวัดพระธรรมกายคงจะจบอย่างที่ประกาศกันเอาไว้ แต่จะเป็นการจบแบบค้างคาใจกองเชียร์ ทิ้งปมเอาไว้รอให้เกิดภาค 2 ภาค 3 ต่อไปในอนาคต
เรื่องเก็บภาษีจากดร.ทักษิณ ยังพอมีเวลาให้พิจารณาอีกระยะหนึ่งก่อนคดีหมดอายุความ กรณีนี้มือกฎหมายของรัฐบาลบอกว่ายังพอมีช่องทางดำเนินการได้อย่างน้อย 3 ช่องทาง เมื่อมือกฎหมายออกมาพูดอย่างนี้ ก็คงพอมองเห็นแนวโน้มบทสรุปของเรื่องนี้ว่าจะออกมาในทิศทางไหน อย่างไร
สำหรับเรื่องการสร้างความปรองดองก็คงถูกใช้เป็นประเด็นรักษาเครดิตว่าเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาขัดแย้งต่อไป โดยที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
You must be logged in to post a comment Login