วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ซาอุฯลุยเอเชียเป้าเศรษฐกิจ

On March 15, 2017

กษัตริย์องค์ประมุขแห่งซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้นำประเทศที่ไม่ค่อยเดินทางเยือนต่างประเทศ การนำคณะตระเวนเยือนประเทศเพื่อนบ้านเอเชียครั้งใหญ่ตลอดเดือนนี้ จึงเป็นความเคลื่อนไหวที่หลายฝ่ายจับตามอง

การเสด็จเยือนประเทศเอเชียอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดัล อาซิซ อาล สะอูด ถือเป็นการเดินทางแบบ “จัดเต็ม” มีคณะผู้ติดตามมากถึง 1,500 คน เป็นเจ้าชาย 25 พระองค์ และรัฐมนตรี 10 คน

เดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 6 ลำ พร้อมเครื่องบินขนส่งทหาร 1 ลำ ใช้บรรทุกกระเป๋าและสัมภาระต่าง ๆ รวมน้ำหนัก 500 ตัน

ประเทศที่เสด็จเยือน มี 6 ชาติ เริ่มจากมาเลเซีย ต่อด้วยบรูไน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น จีน และปิดท้ายด้วยมัลดีฟส์ รวมเวลาเดินทาง 1 เดือน

ภารกิจสำคัญของการเยือน ได้แก่ การเจรจาการค้าการลงทุน ซึ่งเป็นกลไกที่ซาอุฯ มีแผนใช้พลิกโฉมเศรษฐกิจระยะยาว จากประเทศที่พึ่งพาการขายน้ำมันเป็นหลัก สู่ประเทศอุตสาหกรรมอย่างอื่น

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือการเพิ่มระดับความสัมพันธ์กับประเทศที่เยือน รวมทั้งแสวงหาพันธมิตร เพื่อเป็นพลังหนุนทางการเมือง

ประเทศเป้าหมายด้านการแสวงความร่วมมือทางการค้าการลงทุน ได้แก่ จีนกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลูกค้าซื้อน้ำมันรายใหญ่จากซาอุฯ

การเสด็จเยือนของกษัตริย์ซัลมาน เป็นวาระสรุปข้อตกลงต่างๆ ที่จีนกับญี่ปุ่นให้คำมั่นไว้ช่วงเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เสด็จเยือนก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนรายใหญ่หลายค่ายของจีนและญี่ปุ่น แสดงความสนใจเข้าไปลงทุนในซาอุฯ

ประเทศส่วนที่เหลือ เป็นกลุ่มที่ซาอุฯ เน้นกระชับความสัมพันธ์ เนื่องจากเป็นชาติมุสลิมนิกายซุนนีเหมือนกัน โดยซาอุฯ เป็นประเทศผู้นำทั้งมาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย และมัลดีฟส์

แม้จะมีการเจราจาและทำข้อตกลงด้านเศรษฐกิจใน 4 ประเทศ โดย Saudi Aramco  ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซใหญ่ที่สุดในโลก มีแผนเข้าไปลงทุนสร้างโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีในมาเลเซียและอินโดนีเซีย วงเงินหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

แต่นักวิเคราะห์มองว่า ซาอุฯ มีจุดประสงค์หลักในการดึง 4 ประเทศ มาเป็นพันธมิตรด้านการเมืองมากกว่า โดยซาอุฯ ชูแผนต่อต้านการก่อการร้ายไอเอส เป็นโครงการเพิ่มความร่วมมือระหว่างกัน

ซาอุฯ มีปัญหาพิพาทกับอิหร่านมาต่อเนื่อง ทำให้ต้องแสวงหาพันธมิตรทางการเมืองเพิ่ม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของตน ป้องกันการตกเป็นรองอิหร่าน

แม้ความเคลื่อนไหวของซาอุฯ ครั้งนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยโดยตรง แต่ประเทศส่วนใหญ่ที่ซาอุฯ เยือนก็อยู่รอบ ๆ ไทย

จึงเป็นไปได้ว่า โครงการบางอย่างที่เกิดขึ้น จะส่งผลมาถึงไทยไม่มากก็น้อย


You must be logged in to post a comment Login