- อย่าไปอินPosted 20 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
“เสน่ห์เที่ยว เสน่ห์ไทย” ชูอัตลักษณ์พื้นถิ่น ปลุกกระแสท่องเที่ยว
กรมการท่องเที่ยวจัดนิทรรศการ “เสน่ห์เที่ยว เสน่ห์ไทย” อวดผลงานสุดสร้างสรรค์ดีไซน์จากต้นทุนทางวัฒนธรรม ผสมผสานเสน่ห์พื้นบ้าน ชูอัตลักษณ์เพิ่มมูลค่าสินค้ากว่า 500 ชิ้นงาน จาก 18 แหล่งท่องเที่ยวนำร่องทั่วไทย ภายใต้โครงการพัฒนาสินค้าต้นแบบของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว วันที่ 20-21 มีนาคม ศกนี้ ณ บริเวณลานแฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมมอบผลงานต้นแบบให้แก่เครือข่ายผู้ประกอบการใน 18 พื้นที่เพื่อต่อยอด และปูพื้นฐานการสร้างอุตสาหกรรมสินค้าที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว เป็นครั้งแรกให้ชุมชน
วันนี้ (20 มีนาคม 2560) ณ บริเวณลานแฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรมการท่องเที่ยว เปิดงานนิทรรศการ “เสน่ห์เที่ยว เสน่ห์ไทย” เพื่อแสดงผลงานจาก “โครงการพัฒนาสินค้าต้นแบบของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว” ซึ่งได้รับเกียรติจากนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานและมอบต้นแบบสินค้าที่ระลึกให้กับเครือข่ายผู้ประกอบการใน ๑๘ พื้นที่ เพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้าของที่ระลึกแต่ละพื้นที่ท่องเที่ยว โดยมี นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ในฐานะหน่วยงานหลักที่ดำเนินโครงการฯ กล่าวถึงความเป็นมา
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย ให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาผู้ประกอบการ SME ให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ให้มีศักยภาพตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0. (Thailand 4.0)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า อุตสาหกรรมและธุรกิจท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศและสร้างอาชีพให้คนในชุมชน ดังนั้นในปี 2560 กระทรวงได้กำหนดแผนกลยุทธ์ Local Experience หรือ การสร้างสรรค์ประสบการณ์การสัมผัส ชีวิต ความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตคนไทยในแบบ 360 องศา ดังนั้นการพัฒนาชุมชนให้มีความสามารถผลิตสินค้าที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว จะช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมขน และยังเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมสินค้าที่ระลึกโดยชุมชนเป็นเจ้าของด้วยตนเอง
“การมอบผลงานต้นแบบ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างคลัสเตอร์การผลิตในอุตสาหกรรมสินค้าที่ระลึกโดยชุมชน ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐใดที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง นอกจากนี้ กระทรวงยังมีหน่วยงานที่สามารถให้การสนับสนุนด้านงบประมาณแก่เครือข่ายชุมชนที่มีความพร้อม เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานอย่างจริงจัง”
นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยวในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาสินค้าต้นแบบของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมนำร่องของกรมฯ ในปีงบประมาณ 2559 โดยคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างชุดความรู้ผ่านกรณีศึกษา 18 พื้นที่ จากพื้นที่ท่องเที่ยว“12เมืองต้องห้ามพลาด” และ “12 เมืองต้องห้ามพลาดพลัส” รวมทั้งจังหวัดที่มีสนามบินนานาชาติ 4 จังหวัด
การดำเนินงานเริ่มจากการประชุมระดมความคิดจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาโดยใช้เสน่ห์ที่เป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นและภูมิปัญญามาประยุกต์ใช้ เน้นรูปแบบที่มีร่วมสมัยและสอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในแต่ละแหล่งท่องเที่ยว
ผลการดำเนินงาน เกิดสินค้าต้นแบบจำนวน 540 ชิ้นงาน และนำมาจัดแสดงในนิทรรศการ“เสน่ห์เที่ยว เสน่ห์ไทย”ระหว่างวันที่ 20-21 มีนาคม 2560 ณ บริเวณลานแฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อเปิดพื้นที่เรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจในการต่อยอด
“โดยก่อนที่จะมีการมอบผลงานต้นแบบในพิธีเปิดนิทรรศการในวันนี้ กรมการท่องเที่ยวได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ผู้แทนเครือข่ายชุมชนทั้ง 18พื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจในการ “ถอดรหัส เสน่ห์เที่ยว-เสน่ห์ไทย” และฝึกการทำโมเดลธุรกิจ (Business Canvas Model) เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เครือข่ายก่อนจะเคลื่อนงานจริง” อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าว
18 แหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นพื้นที่นำร่อง ประกอบด้วยพื้นที่ใน“12 เมืองต้องห้ามพลาด”จำนวน 8จังหวัด ได้แก่ 1) เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 2) หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำบ้านนาป่าหนาด ต.เขาแก้ว อ.เชียงคาน จ.เลย 3) ปราสาทเมืองต่ำบ้านโคกเมือง ต.จระเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 4) เกาะพิทักษ์ ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร 5) เกาะลิบง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง 6) อุทยานแห่งชาติหาดขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช 7) วิสาหกิจชุมชนบ้านรักษ์เขาบายศรี ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี และ 8) ชุมชนตำบลน้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวใน “12 เมืองต้องห้ามพลาดพลัส” มีจำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ 1) ชุมชนบ้านพระพุทธบาทห้วยต้ม ต.นาทราย อ.ลี้ จ.ลำพูน 2) ชุมชนบ้านทุ่งโฮ้ง ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง จ.แพร่ 3) น้ำตกตาดโตน อุทยานแห่งชาติตาดโตน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 4) หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ 5) อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล 6) พระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม
และจังหวัดที่มีท่าอากาศยานนานาชาติ 4จังหวัด ได้แก่ 1) เชียงใหม่ 2) เชียงราย 3) สงขลา (หาดใหญ่) และ 4) ภูเก็ต
You must be logged in to post a comment Login