- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 3 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 day ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
ญี่ปุ่นลงนามค้าเสรีอียูปลายปี
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2017/03/EU3.jpg)
นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น นำคณะเยือนยุโรป 3 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี รวมทั้งสำนักงานใหญ่สหภาพยุโรป (อียู) ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยใช้เวลา 4 วัน ระหว่าง 19-22 มีนาคม ที่ผ่านมา
วาระสำคัญในการเยือนยุโรปครั้งนี้ คือ การเดินทางไปย้ำเจตนาว่า ญี่ปุ่นพร้อมหาแนวทางให้ได้ข้อสรุปการทำข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับอียูโดยเร็ว
การเดินทางค่อนข้างใช้เวลารวบรัด โดยผู้นำญี่ปุ่นและคณะ “แวะเยือน” แต่ละจุดเป้าหมายเพียงวันเดียว
แต่ผลที่ตามมา ถือว่ามีคุณค่ามากกว่าเวลาที่เยือน เนื่องจากช่วยให้คู่เจรจามีความเชื่อมั่นในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
“คู่เจรจา” หมายถึงอียูในภาพรวม ซึ่งมีทั้งหมด 28 ประเทศ ส่วน “ความเชื่อมั่น” มาจากถ้อยแถลงของผู้นำญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญกับเอฟทีเออย่างจริงจัง
อียูกับญี่ปุ่น “ตั้งโต๊ะ” เจรจาเอฟทีเอรอบแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว (เริ่มปลายเดือนมีนาคม ปี 2013) จากนั้นก็นัดถกกันเรื่อยมา รวมทั้งหมด 17 รอบ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ในหลายประเด็น ทำให้แผนเอฟทีเอยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม การตระเวนเยือนยุโรปครั้งนี้ของผู้นำญี่ปุ่น ได้สร้างความมั่นใจให้หน่วยงานญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงกับอียูได้ภายในสิ้นปีนี้
ญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าอียูในเอเชีย ใหญ่อันดับ 2 รองจากจีน โดยปีที่แล้ว อียูนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น รวมมูลค่า 66,400 ล้านยูโร ขณะส่งออกสินค้าไปญี่ปุ่น รวมมูลค่า 58,100 ล้านยูโร ทำให้อียูเสียเปรียบดุลการค้าญี่ปุ่น 8,300 ล้านยูโร
ทั้ง 2 ฝ่าย คาดว่า หากมีเอฟทีเอระหว่างกัน มูลค่าการค้าจะเข้าสู่มิติใหม่
นอกจากการค้าการลงทุนแล้ว ญี่ปุ่นยังมีความสำคัญต่ออียู ในบทบาทเป็น “พี่เลี้ยง” ช่วยเหลืออียูเจรจาเอฟทีเอกับประเทศเอเชียอื่นๆ ด้วย
อียูมีนโยบายเจาะตลาดการค้าการลงทุนในเอเชียมานาน แต่เท่าที่ผ่านมา ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
เนื่องจากสามารถทำเอฟทีเอกับชาติเอเชียได้เพียง 3 ประเทศ คือเกาหลีใต้ สิงคโปร์ และเวียดนาม และอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 4 ประเทศ คือญี่ปุ่น ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
หากการเจรจากับญี่ปุ่นบรรลุผลปลายปีนี้ตามที่ตั้งเป้าไว้ ถือว่าอียูประสบความสำเร็จครั้งสำคัญ ทำให้ความหวังอีกอย่างของอียูที่พ่วงมากับเอฟทีเอ มีโอกาสเป็นไปได้สูง
ความหวังดังกล่าว คือการก้าวเป็นพี่ใหญ่ของเอเชียแทนสหรัฐ ในด้านความร่วมมือทางการค้าการลงทุน
You must be logged in to post a comment Login