วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

Unstable City / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On March 27, 2017

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ
ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

ดัดจริตพาดหัวภาษาปะกิตซะหน่อย อากาศมันร้อน สภาพจิตใจไม่ค่อยจะเสถียร เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ขึ้นๆลงๆตามอุณหภูมิ บ่ายๆริมๆสี่สิบ เผลอหน่อย อ้าว…ไอ้ห่าน พระพิรุณหลั่งมาเหมือนฝนอันชื่นใจซะงั้นแหละ ภาคอีสานนี่มาเกินความต้องการ เพราะแถมพายุกับลูกเห็บมาด้วย เดือดร้อนหลังคาปลิว บ้านพัง ไร่นากระจุยกระจาย

สภาพการณ์ในกรุงเทพฯทั้งเศรษฐกิจและการเมืองก็วูบๆวาบๆไปเรื่อยๆ เผลอหลุดเรื่องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหน่อยเดียวร้องเป็นเจ๊กตื่นไฟ หมาโดนน้ำร้อนสาด และลิงยืนบนสังกะสีเผาไฟกันหมดทั้งประเทศ เพราะคนที่เดือดร้อนคือคนซื้อสินค้าตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ

วันนี้สากกะเบือและครกจำนำไม่ได้แล้ว เรือดำน้ำขนาดอ่าวไทยลึกแค่ 80 เมตร เพ่ก็ยังจะซื้อให้ได้ ก็เอาสิ จะได้เป็นหนี้กันทั้งประเทศ มากน้อยก็แล้วแต่ชะตากรรม

พูดกันจังปรองดองๆ ห่านพะโล้อะไรครับเพ่ ปฏิบัติการ “เช็กบิล” เกิดเป็นระลอกให้เห็น จาก “ชินวัตร” ก็เป็นสัญลักษณ์และบุคลาธิษฐานที่จะต้องทำลายไม่ให้เหลือซาก เหมือนอนุสาวรีย์เลนินโดนแบ็กโฮโค่นลงมากองอยู่กับพื้น

ความเหลื่อมล้ำเรื่อง “ความยุติธรรม” ปรากฏให้เห็นเป็นระยะ เอาว่า “เล่นพวก” กันหน้าตาเฉย โดยเฉพาะประเด็นคอร์รัปชัน เรื่องจิตสำนึก ความละอาย ไม่ต้องพูดถึง “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง” ด่าคนอื่นแต่ตัวเองก็ทำ ญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องร่วมรุ่นร่วมสถาบันทำกันหมด

พวก “เนติบริกร” ก็สวมวิญญาณรับใช้สุดลิ่มทิ่มประตูแบบมอบกายถวายหัว รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ผิดหลักการ แต่ยังเดินหน้าออกมาพูดแบบ “ฉี่รดหัวใจชาวบ้าน” คิดค้นคำแปลกๆ เท่ๆ หรูๆ แต่ชาวบ้านเขาฟังแล้วไม่เข้าใจ

เขียนตั้งนานแล้วว่าทำไมพวกเพ่ไม่ทำให้มันง่าย คือประกาศปิดประเทศเลย จะ “เซตซีโร่” ไม่มีเลือกตั้งจนกว่าจะจัดตั้งทุกอย่างให้ลงตัว เอาแบบนี้ยังจะสบายใจกว่า ทำไมต้องเสียเวลาสร้างเวที จัดฉาก จ้างวง จ้างนักแสดง แล้วเปิดวิกร้องแรกแหกกระเชอแบบจันทโครพเปิดผอบพบนางมโนราห์ ไอ้ห่านเอ๊ย! โจรป่าซุ่มโป่งคอยปล้นเอาไปกินทั้งผู้หญิงและทรัพย์สินเงินทอง

เมื่อไรจะเลิกดูถูกประชาชนคนกินข้าวกันซะที เพ่จะเอาไงก็เอาเลย ทำเลย อำนาจอยู่ในมือ ถ้าแน่จริงก็อยู่ยาวแบบ “สฤษดิ์-ถนอม-ประภาส” เลย

คนมาแล้วก็ไป แต่ประเทศชาติบ้านเมืองต้องอยู่ ส่วนจะอยู่แบบไหนก็ยังดำรงอยู่ จะล้าหลัง ก้าวหน้า จะได้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น คนที่เขา “อยู่เป็น” ก็ให้อยู่กันไป คนที่ “รับไม่ได้” จะได้หาทางสู้ให้ถึงที่สุด เมื่อขอกันดีๆไม่ให้ มันจะไปเหลือหนทางอะไรนอกจากสู้กัน ไม่ว่าทางความคิดหรือสรรพกำลัง

ไม่ได้ปลุกระดม แต่มันเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ต้มน้ำจนเดือดไม่ยอมเปิดฝาก็ระเบิด วันนี้ป่าเหี้ยนเตียนโล่ง ไม่มีให้เข้าไป พรรคคอมมิวนิสต์กลายเป็นตราบนเสื้อยืดตัวละร้อยกว่าบาท รูปประธานเหมาหรือเลนินกลายเป็นที่ทับกระดาษบนโต๊ะ ซ้ายเก่ากลายเป็นอีลิต มีบ้าน 2 หลัง เมียและอีหนู กินไวน์แพง แชมเปญหรู เสียผู้เสียคนตอนอายุเลยแซยิด แต่ยังพร่ำบ่นเพ้อเจ้อวีรชนเราต่อสู้เผด็จการ

ไม่มีใครหน้าไหนต้านพลวัตการเปลี่ยนแปลงได้ พวกเพ่อยากพิสูจน์ก็เอา การต่อสู้ด้วยอาวุธอาจเป็นแค่น้ำจิ้ม แต่การต่อสู้ด้วยเทคโนโลยียุคเร็วกว่าแสงบนมือถือต่างหากที่จะแหลมคมและรุนแรงกว่ายิงด้วยลูกกระสุน สนจ. ไม่ได้หมดหวังกับประเทศนี้กับคนที่รักสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค แต่หมดหวังกับชนชั้นนำประเทศนี้

คนรุ่น สนจ. ไม่ใช่เรื่อง “อยู่เป็น” แต่อยู่ไปเรื่อยๆ อยู่ได้และอยู่สบายตามอัตภาพ และจะรอดู รอไม่ไหวก็ตายไปก่อนก็แค่นั้น…ฮา


You must be logged in to post a comment Login