- อย่าไปอินPosted 19 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ร้านออนไลน์ขายดีแต่เสี่ยง
การค้าออนไลน์ ซื้อขายผ่านโลกไซเบอร์หรือ “อีคอมเมิร์ซ” (E-commerce) เป็นความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุคดิจิทัล และขยายตัวด้วยอัตราที่แรงขึ้นตามลำดับ
บริษัท DHL Express ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และขนส่งสินค้าชั้นนำของโลก ระบุว่าการค้าออนไลน์ข้ามประเทศ (Cross-border e-commerce) เป็นหนึ่งในอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
DHL เปิดเผยรายงานที่รวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ประกอบการ รวมทั้งสอบถามบริษัทค้าปลีก และบริษัทผลิตสินค้ากว่า 1,800 แห่ง ใน 6 ประเทศ พร้อมกับแนะนำผู้ประกอบการให้ขยายฐานลูกค้า จากภายในประเทศสู่ระดับนานาชาติ
DHL คาดว่า ระหว่างปี 2015-2020 การค้าออนไลน์ข้ามประเทศจะขยายตัวมากกว่าการค้าออนไลน์ภายในประเทศ 2 เท่า โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 25% มูลค่าการค้าเพิ่มจาก 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2015 ขึ้นไปที่ 900,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2020
ขณะยอดขายของผู้ประกอบการ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10-15%
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโต ได้แก่ คุณภาพของสินค้า และความรวดเร็วของการส่งสินค้า ซึ่งต้องอาศัยบริษัทขนส่งมืออาชีพช่วยดำเนินการให้
สำหรับตลาดสินค้าคุณภาพพรีเมียม รวมมูลค่ายอดขายเฉลี่ยปีละ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ลูกค้ากระจายอยู่ใน 3 ทวีป คือเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ จำนวนเท่า ๆ กัน
ลูกค้าของสินค้าคุณภาพสูงในเอเชีย ที่ขยายตัวสูง 2-3 เท่า ของลูกค้าออนไลน์รวมทั่วโลก ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง และอินเดีย ส่วนยุโรป ประกอบด้วยอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส และเยอรมนี
จากข้อมูลของ DHL ดูเหมือนการค้าออนไลน์ข้ามประเทศ จะเป็นธุรกิจที่ทำง่ายขายสินค้าคล่อง แต่จริงแล้ว การขายสินค้าออนไลน์ข้ามประเทศ เป็นธุรกิจที่มีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายอย่าง ที่ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจ
ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่ง คือกลยุทธ์การขายที่สามารถจูงใจลูกค้าได้ ประกอบด้วยการตั้งราคาสินค้า การส่งสินค้าตามเวลาที่ระบุไว้ และความซื่อสัตย์ทำให้ลูกค้าไว้วางใจ
นอกจากนั้น ยังต้องมีมาตรการป้องกันการถูกโกงด้วย ซึ่งเท่าที่ผ่านมา ผู้ประกอบการทั่วโลกเสียหายจากการถูกลูกค้าโกง รวมมูลค่าปีละหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
การวิจัยของ Business Insider พบว่า ผู้ประกอบการเฉพาะในสหรัฐประเทศเดียว เสียหายจากการถูกโกงในปี 2014 ประมาณ 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะผู้ประกอบการทั่วโลกเสียหายมากกว่าสหรัฐ 2 เท่า
โดยสรุปแล้ว อีคอมเมิร์ซเป็นช่องทางที่ดูสดใสในการขายสินค้า แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเสี่ยงสูง
You must be logged in to post a comment Login