วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

อังกฤษเริ่มขบวนการBrexit

On March 31, 2017

อังกฤษภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ได้ยื่นหนังสือแจ้งความจำนงต่อสหภาพยุโรป (อียู) ขอดำเนินการแยกตัวจากอียู ที่เรียกว่าแผน “Brexit” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันพุธที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา

อังกฤษ ซึ่งเป็นแกนนำของสหราชอาณาจักร(ยูเค) มีกรอบเวลาดำเนินการ 2 ปี หากการเจรจาข้อตกลงใหม่กับอียูเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถตกลงเงื่อนไขทั้งหมดได้ตามที่กำหนดไว้ โดยไม่มีการ “ต่อเวลา” เพิ่ม

อังกฤษและยูเคจะเป็นอิสระจากอียู วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562 (ปี 2019)

สำหรับการเจรจา คาดว่าจะเริ่มนัดแรก กลางเดือนพฤษภาคมนี้ โดยประเด็นสำคัญที่ 2 ฝ่าย ต้องทำข้อตกลงกันใหม่ ประกอบด้วยเรื่องการค้าการลงทุน สิทธิของต่างด้าว ด้านความมั่นคง และกระบวนการยุติธรรม

ด้านการค้า ยูเคมีแผนออกจากตลาดอียู หรือ “Single market” ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้า ธุรกิจด้านบริการ และเงินทุนของประเทศสมาชิกอียูทั้งหมด โดยยูเคจะชดเชยด้วยการเจรจาทำสัญญาการค้าเสรีกับอียู

การออกจากตลาดอียู ถือเป็นมาตรการที่นักวิเคราะห์มองว่า จะส่งผลทำให้เกิดความไม่แน่นอนค่อนข้างสูงในช่วงแรก ๆ เนื่องจากผู้ประกอบการหลายประเทศของอียู ต้องย้ายฐานธุรกิจออกจากยูเค ขณะการส่งออกและนำเข้าสินค้า ก็อาจเผชิญภาวะชะงักงันเช่นกัน

ส่วนเรื่องสิทธิต่างด้าว ประเด็นที่ต้องเจรจากัน คือการคุ้มครองสิทธิพลเมืองอียูในยูเค และพลเมืองยูเคที่อยู่ในอียู โดยมีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจกันหลายอย่าง

ขณะด้านความมั่นคง ประเด็นที่ต้องเจรจากัน ประกอบด้วยข้อตกลงเรื่องการข้ามพรมแดน การพิจารณาหมายจับของอียู การย้ายสำนักงานอียูออกจากยูเค และสัญญาความร่วมมือด้านข้อมูลข่าวสาร

กระบวนการยุติธรรม เป็นอีกภาคส่วนหนึ่ง ที่ยูเคจะออกจากระบบของอียู และมีแผนจัดตั้งหน่วยงานหรือองค์กรขึ้นมาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย เมื่อมีข้อพิพาทกับอียู

สำหรับประเด็นที่นานาชาติ รวมทั้งประเทศไทย เฝ้าติดตามมากที่สุด ได้แก่ เรื่องการค้าการลงทุนว่า จะมีผลกระทบต่อประเทศของตนมากน้อยแค่ไหน

ในส่วนของประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญมองว่า อาจได้รับผลกระทบด้านการส่งออกในระยะสั้น จาก “แรงกระเพื่อมติดพัน” กล่าวคือ หากอียูซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย ได้รับผลกระทบ จะทำให้เกิดแรงติดพันกระเพื่อมมาถึงไทย

ขณะตลาดหุ้นและตลาดการเงิน ก็อาจได้รับผลกระทบระยะสั้นเช่นกัน ในช่วงที่นักลงทุนยังขาดความมั่นใจ

สรุปแล้ว แผน “Brexit” มีแนวโน้มสูงที่จะส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ส่วนพลังจะแรงแค่ไหน ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาของอียูและยูเค


You must be logged in to post a comment Login