วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

‘ทรัมป์’เมินภัยภาวะโลกร้อน

On April 3, 2017

ก้าวย่างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ แม้จะลงมือด้วยเหตุผล สามารถอธิบายความได้

แต่ส่วนใหญ่ เป็นปฏิบัติการ “ย้อนศร” กระแสหลักของโลก ทำให้กลายเป็นงาน “เรียกแขก” และสร้างความฮือฮาได้แบบ “เรตติ้ง” ไม่ตก

การเซ็นคำสั่งพิเศษ (Executive Order) เมื่อวันอังคารก่อน (28 มีนาคม) เป็นสีสันล่าสุดของทรัมป์ ซึ่ง “เรียกแขก” ได้คึกคักทั่วโลก

คำสั่งดังกล่าว กำหนดให้สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency) ของสหรัฐ ทบทวนแผนพลังงานสะอาด (Clean Power Plan : CPP) ที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา จัดทำขึ้น

โอบามาจัดทำ CPP เป็นแผนแม่บทดำเนินการทยอยลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกชนิดหนึ่ง ที่ทำให้สภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง และเกิดภาวะ​โลกร้อน

สหรัฐระบุไว้ในแผน CPP จะทยอยลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 26% ระหว่างปี 2005-2025 โดยเป็นมาตรการให้ความร่วมมือกับนานาชาติ ตามข้อตกลง “Paris Agreement” ของสหประชาชาติ

แผนดังกล่าว คือการทยอยลดใช้น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ โดยหันไปพึ่งพลังงานสะอาดที่ได้จากธรรมชาติ ปราศจากการก่อไอเสีย เช่น ไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ พลังลม พลังน้ำ และเชื้อเพลิงชีวภาพ แทน

โอบามาได้รับคำชมจากนานาชาติ หลังตัดสินใจจัดทำ CPP แต่ทรัมป์มองตรงข้าม โดยเห็นว่า CPP เป็นแผนขโมยความมั่งคั่งของสหรัฐ โดยเฉพาะมาตรการลดผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหิน

ผู้นำสหรัฐจึงเซ็นคำสั่งพิเศษ ยกเลิกกติกา CPP ในส่วนของถ่านหิน เปิดทางให้อุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าถ่านหิน กลับมาคึกคักตามเดิม โดยทรัมป์บอก “กองเชียร์” ว่าดำเนินการไปเพื่อสร้างผลผลิต และสร้างงานให้ชาวอเมริกัน

ในส่วนของการจ้างงาน ทอม ครอว์เธอร์ นักวิจัยที่ทำรายงานภาวะโลกร้อนฉบับล่าสุดให้สหประชาชาติแย้งว่าไม่จริง โดยอ้างตัวเลขของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ที่ระบุว่า อุตสาหกรรมถ่านหิน น้ำมัน และและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐ  มีการจ้างงาน 187,117 คน ขณะภาคพลังงานสะอาด มีการจ้างงานกว่า 650,000 คน

ผู้นำและนักวิชาการชั้นนำของโลกจำนวนมาก ตำหนิการตัดสินใจของทรัมป์ มองว่าเป็นการถอยหลังลงคลอง

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป จีน อินเดีย แคนาดา และอีกหลายประเทศ ได้ประกาศทำนองว่า “เราจะสู้ต่อไป แม้ไม่มีสหรัฐเคียงข้างก็ตาม”

กรณีนี้เป็นเพียงอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่ผู้นำสหรัฐใช้ “เรียกแขก” คาดกันว่า ยังมี “มุขใหม่” ที่รอปล่อยในอนาคตอีกหลายกรณี

ทำให้ทั้งฝ่ายสังเกตการณ์และกองเชียร์ เฝ้าติดตามลุ้นมุขต่อไปว่า จะมี “เฮ” มากน้อยแค่ไหน


You must be logged in to post a comment Login