พ่อแม่ต้องทำหน้าที่แม่สื่อ / โดย ภูริวรรณ วรานุสาสน์

• Tweet
• 

คอลัมน์ : China Today
ผู้เขียน : ภูริวรรณ วรานุสาสน์

ในสมัยโบราณ องค์จักรพรรดิจีนจะเดินทางไปยังหอบูชาฟ้าในเมืองปักกิ่งเพื่อทำการบูชาฟ้าดินสำหรับการเก็บเกี่ยวอันอุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบัน หอบูชาฟ้ากลายเป็นสถานนัดพบสำหรับบรรดาพ่อแม่ที่มาแสวงหาคนรักให้กับลูกๆหนุ่มสาวโสดของพวกเขา

เช้าแสนหนาววันหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีแม่ผู้กังวลคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ริมทาง โดยด้านหน้าของเธอมีใบโฆษณาที่เขียนด้วยลายมืออยู่

โดยในโฆษณาด้านหน้าของเธอนั้นคือใบประกาศหาคู่สำหรับลูกชายวัย 45 ปีของเธอ ซึ่งใบโฆษณาใบนี้คือหนึ่งในใบโฆษณาหลายร้อยใบที่วางไว้บริเวณริมทางเดิน

โฆษณาประกาศไว้ว่า “ชาย อายุ 45 ปี ทำงานรัฐวิสาหกิจ การงานมั่นคง จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ต้องการหญิงสาวที่เกิดในปักกิ่ง (ไม่อ้วน) และมีอพาร์ตเม้นต์เป็นของตนเอง”

สำหรับกลุ่มพ่อ(สื่อ)แม่(สื่อ)นี้ เมื่อมีใครสนใจก็จะเริ่มแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือและนัดแนะให้ลูกๆมาพบปะหน้าตากัน

สำหรับมุมพ่อสื่อแม่สื่อนี้ เป็นสถานที่นัดพบยอดฮิตมานับทศวรรษ และไม่ใช่เฉพาะที่ปักกิ่งเท่านั้น หากแต่ปรากฏการณ์เช่นนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามสวนสาธารณะทั่วประเทศจีน

คุณแม่ของลูกชายคนนี้เปิดเผยว่า เธอมานั่งหาคู่ให้ลูกชายเธอนานกว่า 4 ปีแล้ว แม้ว่าเธอจะสามารถหาแฟนสาวให้ลูกชายของเธอได้หลายคน แต่สุดท้ายความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับไม่ลงตัวและต้องเลิกรากันไปตลอด เธอเลยต้องมานั่งหาคู่อยู่จนถึงทุกวันนี้

เมื่อปี ค.ศ. 2013 มีการสำรวจหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ที่ยังไม่ได้แต่งงานมีจำนวนทั้งสิ้น 180 ล้านคน

หนึ่งในแม่ที่ไม่เปิดเผยชื่อเล่าให้ฟังว่า เธอไม่ค่อยเชื่อถือในเว็บไซต์หาคู่หรือกิจกรรมหาคู่ตามรายการโทรทัศน์ กลุ่มพ่อสื่อแม่สื่อตามสวนสาธารณะที่พวกเธอจัดตั้งขึ้นมานั้นน่าเชื่อถือกว่า อย่างน้อยพวกเราก็สามารถพบปะหน้าตาพ่อแม่ของอีกฝ่ายหนึ่งได้ก่อน ดังนั้น เมื่อพ่อแม่เป็นอย่างไรก็ไม่ยากที่จะคาดเดานิสัยใจคอของลูกๆของพวกเขา

คุณแม่แซ่เฉินคนหนึ่งที่มามองหาคนที่เหมาะสมกับลูกสาวของเธอเล่าให้ฟังว่า แม้ว่าส่วนใหญ่การมาหาคู่แถวนี้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ตัวเธอนั่งเฉยๆอยู่ที่บ้านไม่ทำอะไรเลย

เธอเล่าต่ออีกว่า หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของลูกสาวเธอ สามารถพบเนื้อคู่และได้แต่งงานกันผ่านทางพ่อแม่ที่มานั่งตามสวนสาธารณะแบบนี้ ดังนั้นลูกสาวเธอจึงไม่ขัดและสนับสนุนให้เธอลองมาที่นี่ดูบ้าง

แต่ก็ใช่ว่าบรรดาลูกๆจะเห็นดีเห็นงามไปทั้งหมด

เฉา หญิงสาววัย 30 ปีที่ทำงานในสำนักงานการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งกล่าวว่า เธอให้ความสำคัญกับงานของเธอมากกว่าที่จะมานั่งค้นหาคู่ชีวิตในอนาคตของเธอ

เฉากล่าวว่า เธอจะรู้สึกอับอายมากถ้ารู้ว่าพ่อแม่ของเธอ เอาเธอไปโฆษณาหาคู่ตามสวยสาธารณะแบบนั้น ดังนั้น เธอจึงโกหกแม่ของเธอว่าเธอมีแฟนแล้ว

คนรุ่นใหม่อย่างเฉาแตกต่างจากคนรุ่นพ่อแม่ของพวกเธอที่เดิมพวกเธอต้องการคู่ที่มีแค่เตียงนอน โต๊ะอาหาร ตู้เสื้อผ้าและของใช้อื่นๆก็เพียงพอ แต่สำหรับพวกเธอ คู่ในอนาคตจะต้องมีอพาร์ตเม้นต์ รถและสถานภาพทางสังคมทัดเทียมกับพวกเธอ

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเธอเลือกที่จะอยู่เป็นโสดมากกว่าเลือกคู่ที่ไม่เหมาะสมกับพวกเธอ

You must be logged in to post a comment Login