ระวังอุบัติเหตุ!

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่บรรยากาศการเมืองก็เริ่มคึกคักขึ้น แต่คึกคักได้ไม่นานก็ถูกกระตุกให้เลิกฝันหันมาอยู่กับความจริง

คำแถลงออกโทรทัศน์รวมกาลเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยของท่านผู้นำ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความชัดเจนเดียวที่สื่อสารกับประชาชนทั้งประเทศคือ

“ไม่มีอะไรแน่นอน”

แม้ท่านผู้นำจะชี้แจงเป็นลำดับขั้นว่าหลงประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่แล้วมีขั้นตอนอะไรบ้างที่ต้องทำต่อหลังจากนี้ แต่ก็ไม่ยืนยันกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน โดยอ้างว่าไม่มีใครรู้อนาคต

ท่านผู้นำบอกว่ายังมีภารกิที่รัฐบาลนี้จะต้องทำหลังรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้คือ

1.การวางยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว เพื่อกำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ ทั้งในทางการเมือง การปกครอง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม ว่าเราจะเดินหน้าต่อไปในทิศทางใด และด้วยวิธีการอย่างไร
2.การปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ เพื่อจะได้ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งภารกิจนี้ถือว่าสำคัญมากและจำเป็นต้องมีกฎหมายออกมารองรับ

“แผนและขั้นตอนการทำงานในช่วงปลายต่อจากนี้ไป คือการบริหารประเทศโดยการเสริมสร้างความมั่นคงในทุกๆ ด้าน รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พัฒนาคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ และแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ให้ทันสมัย ตลอดจนเตรียมการปฏิรูปประเทศ เตรียมการด้านยุทธศาสตร์ชาติ และสร้างความสามัคคีปรองดองของชนในชาติ”

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ ให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน แต่ละฉบับจะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณา ซึ่งจะต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 2 เดือน หากมีการแก้ไขเพิ่มเติม ก็จะใช้เวลาเพิ่มอีกประมาณ 1 เดือน

ต่อจากนั้น จึงนำทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศใช้เป็นกฎหมายภายใน 90 วัน เมื่อประกาศใช้กฎหมาย 4 ฉบับแรก เฉพาะที่จำเป็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งครบถ้วนแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาของการเลือกตั้ง อันประกอบด้วย การสมัครรับเลือกตั้ง การรณรงค์หาเสียง และการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งต้องทำให้เสร็จภายใน 5เดือน นับจากวันประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งครบ 4 ฉบับ

“รัฐบาลไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าวันเลือกตั้งจะเป็นเมื่อใด เพราะยังไม่อาจกำหนดวันเริ่มต้นของแต่ละเหตุการณ์ได้ บัดนี้ เราทราบเพียงวันเริ่มต้นนับหนึ่งของเหตุการณ์แรก คือ การประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ต่อจากนั้น เหตุการณ์อื่นๆ ก็จะขับเคลื่อนเลื่อนไหลไปตามลำดับ อันที่จริง ไม่ว่าใครก็ไม่อาจระบุวัน เวลา ชัดเจนได้ นอกจากคาดเดาว่าน่าจะเป็นเมื่อนั้นเมื่อนี้ ขั้นตอนทั้งหลายจะเป็นดังที่เรียนมา และไม่ได้เพิ่งมากำหนดใหม่ในวันนี้ หากแต่ทุกคนทราบมาตั้งแต่การออกเสียงประชามติแล้ว โดยไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง”

นับเป็นความชัดเจนที่ไม่ชัดเจนที่ท่านผู้นำแถลงให้คนไทยทั้งประเทศรับรู้ร่วมกัน ทั้งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จสามารถกดปุ่มสั่งได้ทุกองค์กร ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำกฎหมายเพื่อเดินไปสู่การเลือกตั้ง แต่ก็เลี่ยงที่จะไม่พูดอะไรผูกมัดตัวเอง ยังคงเจาะช่องเอาไว้เพื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

หมายความว่าระหว่างทางก่อนถึงเป้าหมายอุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ต้องไม่ลืมว่าแม้รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 จะสิ้นสภาพบังคับใช้ไปแล้วแต่อำนาจตามมาตรา 44 ยังคงอยู่

มาตรา 44 ที่สามารถออกคำสั่งอะไรก็ได้หากเห็นเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์ ในการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ไม่ว่าการกระทํานั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคําสั่งหรือการกระทํา รวมทั้งการปฏิบัติตามคําสั่งดังกล่าว เป็นคําสั่ง หรือการกระทํา หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นที่สุด

เมื่อมาตรา 44 มาตราเดียวใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ อุบัติเหตุจึงอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา

You must be logged in to post a comment Login