นโยบายลูกคนที่2ไม่ได้ผล /โดย ภูริวรรณ วรานุสาสน์

• Tweet
• 

คอลัมน์ : China Today
ผู้เขียน : ภูริวรรณ วรานุสาสน์

จากสถิติอย่างเป็นทางการพบว่า หลังจากที่ทางการจีนได้ผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียวให้ประชาชนสามารถมีลูกคนที่สองได้นั้น อัตราการเกิดของประชากรจีนยังคงน้อยกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งอัตราการเกิดในบางมณฑลยังลดน้อยลงกว่าเดิมอีกด้วย

จากการสำรวจโดยสุ่มตัวอย่างอัตราการเกิดในประชากร 1 เปอร์เซ็นต์ในเขตปกครองตนเองพิเศษกว่างซี-จ้วงและมณฑลกันซูพบว่า อัตราการเกิดลดลงในปี ค.ศ.2016 ขณะที่ในมณฑลอื่นๆอัตราการเกิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งต่ำกว่าอัตราการเกิดที่ทางการคาดการณ์ไว้

จากการยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวที่ดำเนินนโยบายยาวนานกว่า 4 ทศวรรษเมื่อปี 2016 เพื่อแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุและการขาดแคลนแรงงานในสังคมจีน ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนเพิ่มขึ้นเป็น 17.86 ล้านคน จากเดิมที่อัตราการเกิดมีเพียง 1.31 ล้านคนในปีที่ผ่านมา

จากการสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า คู่แต่งงานที่สนใจที่จะมีลูกคนที่สองมีประมาณ 90 ล้านคู่ ในมณฑลส่านซี เกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของครอบครัวที่มีลูกคนแรกมาแล้ว ไม่อยากมีลูกคนที่สอง ขณะที่ครอบครัวในมณฑลซื่อชวน 65.5 เปอร์เซ็นต์ไม่มีแผนมีลูกคนที่สอง

เจียง เป่าฉวน ศาสตราจารย์จากสถาบันประชากรและการพัฒนาศึกษา มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทงกล่าวว่า เมื่อประชากรตัดสินใจที่จะไม่มีลูกคนที่สองเองนั้น ทำให้การเพิ่มจำนวนประชากรเป็นไปได้ยากมาก และส่งผลกระทบต่ออัตราการเกิดของประเทศอย่างแน่นอน

ดร.ผาน เจียนเล่ย แห่งวิทยาลัยการปกครองปักกิ่งกล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนไม่อยากมีลูกคนที่สองเกิดจากอัตราค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างมากของจีน ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดความกลัวในการที่จะมีลูกคนที่สอง

ดังนั้น หากประชาชนเกิดความกลัวที่จะมีลูกคนที่สองเองแบบนี้แล้ว ทางการคงจะต้องเผชิญกับปัญหาสังคมสูงอายุที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

นโยบายลูกคนเดียวที่ดำเนินมากว่า 40 ปี กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประชาชนชาวจีน

ในปี ค.ศ.1979 ทางรัฐบาลจีนในขณะนั้นได้ออกนโยบายลูกคนเดียวขึ้น เพื่อใช้ควบคุมอัตราการเกิดของประชากร โดยบังคับให้ทุกครอบครัวสามารถมีลูกได้เพียงครอบครัวละ 1 คนเท่านั้น

เพราะก่อนหน้านั้น ประเทศจีนประสบกับปัญหาการเพิ่มจำนวนประชากรอย่างมาก อันเป็นผลมาจากความเชื่อของชาวจีนที่นิยมมีลูกหลายคน ทำให้รัฐบาลขณะนั้นกังวลต่อการพัฒนาประเทศ

ศาสตราจารย์เจียงกล่าวว่า ขั้นต่อไปที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำก็คือ ต้องทำให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงความเชื่อเกี่ยวกับการมีลูก 2 คนเสียก่อน และจัดตั้งหน่วยงานต่างๆเพื่อมารองรับนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นการให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพ การให้ความรู้แก่ประชาชน การสนับสนุนนโยบายทางการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมหาวิทยาลัย

ปัญหาที่สำคัญที่ต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนอีกประการหนึ่งก็คือ การแก้ปัญหาการขาดดุลระหว่างเพศชายกับเพศหญิง ซึ่งคาดกันว่าจะมีผู้ชายจำนวน 30 ล้านคนไม่สามารถหาผู้หญิงจีนมาแต่งงานด้วยได้ไปอีก 30 ปี

นับเป็นปัญหาหนักใจของรัฐบาลจีนอย่างแน่นอน

You must be logged in to post a comment Login