วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

คำโกหกเก่าๆจากผู้นำโลกคนใหม่ / โดย บรรจง บินกาซัน

On April 17, 2017

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

หลังจากการยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ค 50 กว่าลูกจากเรือรบที่ลอยลำอยู่ในน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนใส่ประเทศซีเรีย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาให้เหตุผลว่าสหรัฐจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการเช่นนั้น เพราะได้เตือนรัฐบาลซีเรียครั้งแล้วครั้งเล่าว่าอย่าใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น สหรัฐจึงต้องใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมอันเหี้ยมโหดของรัฐบาลอัสซาด

ฟังเหตุผลดูแล้วเหมือนนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้มีมนุษยธรรมและผู้ปกป้องประชาชน แต่ถ้าใครติดตามสถานการณ์ในซีเรียมาโดยตลอดจะรู้ได้ทันทีว่านี่คือวาทกรรมในปาหี่เก่าๆที่ผู้นำรัฐบาลสหรัฐนำมาใช้เมื่อจะทำลายประเทศใด

ภาพเด็กและผู้ใหญ่ได้รับพิษภัยจากอาวุธเคมีมิใช่เรื่องแปลกใหม่ในซีเรีย เพราะในสมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ภาพเช่นนี้ก็เคยถูกนำมาแพร่ผ่านสื่อยักษ์ใหญ่ของโลกเพื่อเรียกร้องให้มีการโจมตีซีเรีย แต่ในครั้งนั้นรัฐบาลซีเรียสามารถนำหลักฐานมาแสดงให้โลกได้เห็นว่าอาวุธเคมีที่ทำให้ประชาชนซีเรียต้องได้รับความทรมานและเสียชีวิตนั้นมาจากเจ้าชายอาหรับคนหนึ่งที่เป็นเครือข่ายของซีไอเอ

เมื่อโดนเปิดโปงจนล่อนจ้อนเช่นนั้น สหรัฐและชาติพันธมิตรที่กระเหี้ยนกระหือรือจะทำลายรัฐบาลซีเรียก็ต้องนั่งซึมกินแห้วกันไป

มาคราวนี้ยังไม่ทันที่จะได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็รีบสั่งยิงขีปนาวุธถล่มซีเรียทันทีโดยไม่ได้ขอมติจากสภาคองเกรสและได้รับอนุมัติจากสหประชาชาติ

คำถามอยู่ที่ว่าทำไมรัฐบาลสหรัฐจึงต้องรีบด่วนทำเช่นนั้น?

คำตอบคือ กองกำลังไอซิสที่สหรัฐจัดตั้งขึ้นมาเพื่อโค่นล้มรัฐบาลซีเรียกำลังตกอยู่ในภาวะลำบาก เพราะถูกกองทหารซีเรียไล่ต้อน และอาวุธเคมีที่เกิดระเบิดขึ้นมานั้นเป็นระเบิดที่กองกำลังไอซิสเก็บไว้เพื่อใช้ในปฏิบัติการทางทหาร การต่อสู้กันระหว่างกองทัพของรัฐบาลซีเรียกับกองกำลังไอซิสทำให้คลังอาวุธของไอซิสโดนระเบิดจนอาวุธเคมีระเบิดขึ้นมา สหรัฐจึงใช้กรณีนี้เป็นเหตุผลในการยิงขีปนาวุธใส่ซีเรีย

มิใช่เพราะเหตุผลทางด้านมนุษยธรรมหรอกที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาจีบปากจีบคอตอแหลชาวโลก ขีปนาวุธที่ยิงใส่ซีเรียนั้น จริงๆแล้วก็เพื่อที่จะช่วยเหลือกองกำลังไอซิสนั่นเอง

ย้อนไปดูกรณีของอิรักก่อนหน้านี้ สหรัฐก็ใช้วิธีการเดียวกันคือ กล่าวหารัฐบาลของซัดดัม ฮุสเซน ว่าครอบครองอาวุธทำลายร้ายแรงสูง สหประชาชาติส่งตัวแทนเข้าไปสำรวจกี่ครั้งก็ไม่พบ จนจอร์จ ดับเบิลยู. บุช อดรนทนไม่ไหว จึงสั่งให้เรือรบยิงขีปนาวุธใส่อิรักหลังจากเกิดเหตุการณ์ถล่มตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

การโจมตีประเทศต่างๆในตะวันออกกลางถูกกำหนดเป็นวาระสำคัญโดยกลุ่มอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลสหรัฐ คนกลุ่มนี้เป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงและมีอำนาจถาวรในสหรัฐ ไม่ว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะมาจากพรรคใด ประธานาธิบดีคนนั้นก็ต้องปฏิบัติตามวาระที่กลุ่มอิทธิพลกลุ่มนี้วางไว้ นั่นคือ การปูทางให้รัฐบาลไซออนิสต์ของอิสราเอลสร้างอาณาจักรในฝันที่กินดินแดนตั้งแต่แม่น้ำไนล์ถึงแม่น้ำยูเฟรตีส

ถ้าการโจมตีซีเรียประสบความสำเร็จ ชาติต่อไปที่จะถูกชาติมหาอำนาจรุมโจมตีก็คือ อิหร่าน

พลเอกเวสลี คลาร์ก (Wesley Clark) อดีตผู้บัญชาการสูงสุดกองกำลังพันธมิตรนาโต้ในสงครามโคโซโวของสหรัฐ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐได้วางแผนโจมตี 7 ประเทศภายใน 5 ปี ประเทศดังกล่าวได้แก่ อิรัก ซีเรีย เลบานอน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน และอิหร่าน

เว็บไซต์ GlobalReseach สื่อตะวันตกนำคำพูดนี้มาเปิดเผยเมื่อเดือนมีนาคม 2550

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมรายชื่อประเทศดังกล่าวไม่มีประเทศอาหรับสำคัญในตะวันออกกลาง คำตอบคือ ประเทศเหล่านี้ตกอยู่ใต้อำนาจของตะวันตกโดยสิ้นเชิงแล้ว


You must be logged in to post a comment Login