วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

กลับสู่จุดเดิม!

On April 21, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

หลายวันที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองเต็มไปด้วยความอ่อนไหว

โดยเฉพาะความอ่อนไหวของฝ่ายรัฐ

แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือเรื่องการหายไปของ “หมุดคณะราษฎร” หรือชื่ออย่างเป็นทางการเรียกว่า “หมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ”

ปฏิกิริยาจากฝ่ายรัฐไม่ว่าจะเป็นฝ่ายความมั่นคงทหาร ตำรวจ กรมศิลปากร กรุงเทพมหานคร ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แม้จะชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าหมุดนั้นไม่มีความสำคัญ และพยายามขอให้ยุติเรียกร้อง ตามหา เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เพื่อรักษาบรรยากาศปรองดอง

แต่การปฏิเสธที่จะให้ความจริง ปิดกั้นการแสดงความเห็นโดยการเอาผิดนักการเมืองตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การนำตัวคนที่เคลื่อนไหวทวงถามไปปรับทัศนะคติ ก็เป็นแนวทางรักษาความสงบเหมือนที่ทำมาตลอดตั้งแต่เข้ามายึดอำนาจ

สะกดไม่ให้การเคลื่อนไหวขยายวงกว้างออกไปก็เพราะอ่อนไหวว่าจะคลุมสถานการณ์ไม่ได้

นอกจากเรื่องหมุดคณะราษฎรแล้ว การที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงนำกำลังเข้าเจรจาเพื่อขอให้ยกเลิกงานเสวนา ในหัวข้อ “หมุดนี้จะมีผลอย่างไร เราควรทำอย่างไรกับหมุดนี้ พวกเรามีสิทธิอะไรบ้าง” ของมูลนิธิสืบนาคะเสถียรที่จะจัดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ แม้จะเกิดจากการเข้าใจผิดเพราะความเป็นจริงมูลนิธิสืบนาคะเสถียรจะจัดเสวนาหัวข้อ “วิพากษ์ การให้เช่าที่ดิน 99 ปี ผลประโยชน์ของไทยหรือผลประโยชน์ของใคร?”

แม้จะรู้ความจริง แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงก็ยืนยันความประสงค์เดิมที่เดินทางมาเจรจาคือขอให้งดจัดงาน โดยใช้เหตุผลข้ออ้างเดิมคือเกรงว่าจะกระทบต่อความมั่นคง

หรือกรณีล่าสุดแม้แต่การบรรยายในการเรียนการสอนของนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขนก็ยังสั่งห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นนักศึกษาซึ่งลงเรียนในวิชาดังกล่าวเข้ารับฟังการบรรยายที่จะพูดกันในหัวข้อ “The Fake Thailand” (ประเทศไทยอยู่ตรงไหนถ้าไม่มีเลือกตั้งปี 2560) ที่จัดโดย กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ กลุ่มเสรีนนทรี และวิชามนุษยวิทยาการเมือง ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

ทุกอย่างย้อนยุคกลับไปสู่จุดเดิม จุดที่เริ่มเข้ามายึดอำนาจการปกครอง

ไหนว่ารัฐธรรมนูญใหม่รับรองสิทธิเสรีภาพประชาชน

ไหนว่าหลังรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้แล้วทุกอย่างจะผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศแลกเปลี่ยนรับฟังความเห็นเพื่อนำไปสู่การปรองดอง เพื่อเตรียมเข้าโหมดถ่ายโอนอำนาจกลับสู่รัฐบาลพลเรือนผ่านการเลือกตั้ง

ไฉนเลยทุกอย่างยังเป็นไปในรูปแบบเดิม

ไฉนเลยยังมีการกีดกัน ปิดกั้นการแสดงออกทางความคิด

คำตอบเดียวที่อธิบายได้คือความอ่อนไหวในอำนาจที่ตัวเองถือครองอยู่ มองทุกอย่างในมิติเดียวคือเสียงคัดค้าน การแสดงความเห็นต่างจากฝ่ายรัฐ จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง

แม้จะพูดให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ แต่ในความเป็นจริงยังคงเกรงว่าความเห็นต่างต่อนโยบายก็ดี ความเห็นต่างต่อการกระทำของรัฐก็ดีจะกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาลทหารคสช.


You must be logged in to post a comment Login