มือมัจจุราช / โดย ศิลป์ อิศเรศ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

“หากแกทำลายฉัน ฉันก็จะทำลายแกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม” นี่คือคำมั่นสัญญาของกองทัพรัสเซียที่เตือนสติผู้ที่คิดโจมตีรัสเซีย และไม่ใช่เพียงแค่คำขู่เท่านั้น เพราะรัสเซียสร้างอาวุธลับที่สามารถปล่อยขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีปโจมตีศัตรูได้โดยอัตโนมัติแม้จะไม่เหลือมนุษย์ควบคุมเลยสักคนเดียว

อะไรจะเกิดขึ้นถ้ารัสเซียถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ประชาชนจำนวนมากจะล้มตาย และอาจรวมถึงผู้มีอำนาจออกคำสั่งตอบโต้ศัตรูด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ว่าการออกคำสั่งยิงขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์นั้นไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่คนไหนจะทำก็ได้ แต่ต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงมากๆเท่านั้น

แต่ถ้าบุคคลนั้นเสียชีวิตไปแล้วก็เท่ากับว่ารัสเซียกลายเป็นเป้านิ่งปล่อยให้ถูกโจมตีฝ่ายเดียวอย่างนั้นหรือ? คำตอบคือกองทัพรัสเซียไม่ยอมเป็นเป้านิ่งอย่างแน่นอน จึงเกิดความคิดสร้างอาวุธลับที่สามารถควบคุมขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซียที่ติดตั้งในประเทศพันธมิตรทั่วโลกให้ยิงตอบโต้อริราชศัตรูพร้อมๆกันโดยอัตโนมัติแม้รัสเซียจะถูกทำลายจนไม่เหลือใครสักคน

สงครามเย็น

แนวความคิดสร้างอาวุธลับชนิดนี้เกิดขึ้นราวทศวรรษ 1980 ซึ่งอยู่ในช่วงการทำสงครามเย็น รัสเซียและอเมริกาต่างช่วงชิงกันพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปหรือที่เรียกว่า Intercontinental Ballistic Missiles (ICBM)

เมื่อ ICBM ถูกยิงออกไป ประเทศที่เป็นเป้าหมายมีเวลาประมาณ 30 นาที นานพอที่จะยิงขีปนาวุธสกัดการโจมตี ทำให้ ICBM ระเบิดกลางอากาศ เกิดฝุ่นนิวเคลียร์ลอยฟุ้งปลิวกระจายไปทั่ว แต่ไม่ได้ทำลายเป้าหมาย

อเมริกาจึงพัฒนาการยิง ICBM จากเรือดำน้ำให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพราะเรือดำน้ำสามารถเคลื่อนที่เข้าใกล้ประเทศเป้าหมายได้ ทำให้การเตือนภัยถูกทอนลงจาก 30 นาที เหลือเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอที่จะยิงขีปนาวุธสกัดกั้นการโจมตี

ดังนั้น หากอเมริกายิง ICBM จากเรือดำน้ำโจมตีรัสเซียก็รับประกันได้ว่ามันพุ่งเข้าสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำ และเป้าหมายหลักก็มักจะเป็นศูนย์บัญชาการรบหรือสถานที่พักพิงของบุคคลสำคัญ สิ่งนี้สร้างความหนักใจให้กับรัสเซียเป็นอย่างมาก

จรวดบัญชาการ

รัสเซียจึงสร้างระบบโต้ตอบศัตรูด้วยตนเองขึ้นเมื่อปี 1985 รู้จักกันทั่วไปว่า Perimeter System หรือระบบป้องกันภัย ต่อมาภายหลังนิยมเรียกว่า Dead Hand หรือจะเรียกว่า “มือมัจจุราช” ก็คงไม่ผิดนัก เพราะคุณสมบัติของมันคือออกคำสั่งยิงขีปนาวุธทำลายล้างศัตรูให้สิ้นซาก

แรกเริ่มเดิมทีนั้น Dead Hand ถูกสร้างขึ้นเป็นเพียงระบบสำรอง ใช้ในกรณีที่กองบัญชาการรบถูกโจมตี และ/หรือไม่มีผู้มีอำนาจออกคำสั่งยิงขีปนาวุธโต้ตอบศัตรู Dead Hand จะเข้ามาทำหน้าที่แทน

ต่อมาภายหลังได้มีการพัฒนาเป็นระบบทำงานด้วยตนเองอย่างเต็มรูปแบบ สามารถออกคำสั่งควบคุมการทำงานขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปของรัสเซียที่ติดตั้งอยู่ในประเทศพันธมิตรได้ทุกลูก จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Commanding Rocket หรือจรวดบัญชาการ

จรวดบัญชาการไม่ได้ติดตั้งหัวรบ แต่บรรจุเครื่องส่งคลื่นวิทยุที่มีคำสั่งควบคุม ICBM ทุกลูก ไม่ว่าจะติดตั้งใต้ดิน ในเรือดำน้ำ หรือเครื่องบินทิ้งระเบิด สั่งให้ ICBM เหล่านั้นทำงานโดยไม่มีใครหน้าไหนสามารถลบล้างคำสั่งนี้ได้

อาวุธล้างโลก

ดังนั้น หากกองบัญชาการรบของรัสเซียถูกโจมตีจนย่อยยับ แม้ไม่มีผู้มีชีวิตรอดสักคนเดียว Dead Hand ก็เข้ามาทำหน้าที่แทนอัตโนมัติโดยทันที รับประกันได้ว่าศัตรูจะได้รับการตอบโต้ด้วยนิวเคลียร์เช่นเดียวกัน

หลักการทำงานของ Dead Hand คือตรวจจับสัญญาณแรงสั่นสะเทือน ปริมาณสารกัมมันตรังสีในบรรยากาศ และค่าความกดอากาศ นำมาคำนวณว่าค่าที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นเกิดจากการระเบิดของนิวเคลียร์หรือไม่

หากคำตอบคือใช่ ระบบควบคุมการทำงานด้วยตนเองจะเริ่มทำงาน ขั้นต่อมา Dead Hand จะตรวจสอบคลื่นวิทยุย่านความถี่ที่ผู้บัญชาการรบใช้เพื่อตรวจสอบว่ายังมีการติดต่อสื่อสารกันอยู่หรือไม่ ถ้ายังมีการสื่อสารแสดงว่ามนุษย์ยังควบคุมการบัญชาการ Dead Hand จะหน่วงเวลาการทำงานด้วยตนเองระหว่าง 15-60 นาที เพื่อให้มนุษย์เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะยิงขีปนาวุธโต้ตอบหรือจะยกเลิกการโต้ตอบ

แต่ถ้าไม่มีการสื่อสารบนคลื่นวิทยุย่านความถี่ที่ผู้บัญชาการรบใช้ อนุมานได้ว่าทุกคนเสียชีวิตหมดแล้ว Dead Hand จะทำงานด้วยตัวเองโดยทันที

อาวุธช่วยโลก

ดูเหมือนว่า Dead Hand จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายล้างโลกโดยเฉพาะ เพราะมันมีหน้าที่เดียวคือออกคำสั่งให้ ICBM ของรัสเซียทุกลูกยิงถล่มเข้าใส่ประเทศเป้าหมาย แต่ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกลับกลายเป็นตรงกันข้าม

หลายครั้งที่ระบบตรวจจับการโจมตีทางอากาศมีความผิดพลาด เช่น การอพยพย้ายถิ่นฐานของฝูงห่านป่า เครื่องตรวจจับเตือนภัยว่าเป็นการโจมตีทางอากาศ เกือบจะเกิดการยิงขีปนาวุธถล่มกันระหว่างอเมริกาและรัสเซีย

ในกรณีเช่นนี้ Dead Hand เป็นหลักประกันให้มนุษย์ใช้เวลาตรวจสอบอย่างละเอียดโดยไม่ต้องคอยพะวงว่าจะถูกโจมตีฝ่ายเดียว เพราะถึงแม้พวกเขาจะถูกโจมตีจริง Dead Hand ก็จะทำหน้าที่ล้างแค้นคืนให้

You must be logged in to post a comment Login