วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ปัญหาซ้อนปัญหา

On April 24, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ทุกอย่างมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา ความนิยมต่อรัฐบาลทหารคสช.ก็เช่นกัน

ผลสำรวจล่าสุดของสวนดุสิตโพลในโอกาสรัฐบาลทหารคสช.จะก้าวขึ้นปีที่ 3 ในการปกครองประเทศ พบปัจจัยที่ทำให้ความนิยมชมชอบในรัฐบาลลดต่ำลง ประกอบด้วย ปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่ ประชาชนเป็นอยู่ลำบาก การบังคับใช้กฎหมาย เช่น เก็บภาษี กฎหมายจราจร และการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น

ส่วนปัจจัยที่คนยังนิยมชมชอบในรัฐบาลทหารคสช.เป็นปัจจัยเดิมๆที่มีมาตั้งแต่เข้ามายึดอำนาจปกครองประเทศ คือ การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน บ้านเมืองเป็นระเบียบ สงบสุข ไม่มีการชุมนุมประท้วง และการบริหารบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า

ที่น่าสนใจคือร้อยละ 71.58 ให้ดำเนินงานตามโรดแม็ปจัดการเลือกตั้ง เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และร้อยละ 69.97 ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้

สองประเด็นหลังดูจะย้อนแย้งกันอยู่พอสมควร ถ้ายังนิยมชมชอบทำให้อยากให้รัฐบาลทหารคสช.รักษาสัญญาจัดเลือกตั้งตามโรดแม็ป และหากเชื่อมั่นในการเข้ามาปราบปรามทุจริต ทำไมเรียกร้องให้ใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้

จากผลสำรวจนี้ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลทหารคสช.อยู่ในช่วงขาลง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่แก้ไม่ตก จึงไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้จะมีข่าวว่าอาจมีการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งหลังเทศกาลสงกรานต์ แต่ผู้มีอำนาจก็ได้ออกมาปฏิเสธ

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มั่นใจว่าเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้ย่ำแย่ มีเพียงแต่ผู้มีรายได้น้อยเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบเพราะความช่วยเหลือจากรัฐอาจลงไปไม่ทั่วถึงหรือลงไปถึงช้า ส่วนเศรษฐกิจภาพรวมถือว่ายังดีอยู่

“รัฐบาลไม่มีขาลง เพราะรัฐมนตรีทุกกระทรวงทุ่มเทการทำงานทุกอย่าง ผมยังมองไม่เห็นว่าไม่มีอะไรที่ไม่ก้าวหน้า หากเห็นส่วนไหนที่รัฐบาลยังไม่ดำเนินการ ขอให้สื่อไปหามาว่าอะไร แต่ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ได้กำกับดูแลด้วยตนเอง และรัฐมนตรีทุกกระทรวงก็ทำงานหนัก”

เมื่อมั่นใจว่าภาพรวมเศรษฐกิจยังดี “บิ๊กป้อม” จึงยืนยันชัดๆอีกครั้งว่าจะไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจใหม่ เพราะเชื่อว่าการเปลี่ยนตัวคนทำงานไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา และที่ผ่านมาทุกคนทำงานทุ่มเทเต็มที่

เมื่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลเชื่อว่าเศรษฐกิจยังดี ทีมเศรษฐกิจยังทำงานใช้ได้ แล้วอะไรคือปัจจัยที่ทำให้แย่

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้ว่าที่เศรษฐกิจแย่เพราะนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและระบบการเมืองไม่เอื้อต่อการแก้ปัญหา

โจทย์ใหญ่คือ การสร้างความเชื่อมั่นเมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้แล้ว จึงควรใช้กลไกปรกติตามรัฐธรรมนูญบริหารประเทศ เลิกใช้กลไกพิเศษควบคุมดูแลบริหารประเทศ ไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะดำเนินการเหมือนสถานการณ์อยู่ในห้วงรัฐประหาร ทั้งที่ใช้เวลาบริหารประเทศจะครบ 3 ปี มีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า เมื่อการเมืองไม่ปรกติทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น แม้แต่คนไทยด้วยกันยังไม่กล้าลงทุน มีแต่การลงทุนจากภาครัฐขาเดียวทำให้ประเทศพิการด้วยการเดินขาเดียว ขอฝากรัฐบาลเร่งส่งสัญญาณบวกให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปรกติโดยเร็ว

ฟังจากโพลประชาชนเชื่อว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น หากรัฐบาลทหารคสช.รักษาสัญญาจัดเลือกตั้งตามโรดแม็ป

ฟังจากนักการเมืองก็บอกว่าการเมืองปรกติเท่านั้นที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติได้

เมื่อฟังได้อย่างนี้แล้วจึงสรุปได้ว่า “ประชาธิปไตย” คือคำตอบในการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน แต่ปัญหาซ้อนปัญหาคือผู้มีอำนาจขณะนี้คิดไม่เหมือนประชาชนและนักการเมือง


You must be logged in to post a comment Login