วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ได้เวลาปัดกวาด

On May 8, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

การเมืองสัปดาห์นี้อาจจะมีเอฟเฟ็คจากการเซ็นสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำเล็กน้อย แต่จะไม่มีผลอะไรต่อภาพรวมหรือกระทบอะไรกับรัฐบาลทหารคสช. อย่างไรก็ตาม เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำยังต้องตามลุ้นกันต่อยาวๆ ไม่ใช่ลงนามในคำสั่งซื้อแล้วจบ

อีกประเด็นที่ต้องติดตามดูคือเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติของรัฐมนตรีในรัฐบาลทหารคสช. 9 คน ที่ถูกยื่นตรวจสอบคุณสมบัติขัดกับรัฐธรรมนูญใหม่ที่มีผลบังคับใช้แล้วว่าเรื่องนี้จะมีความคืบหน้าจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายไปรษณีย์ว่าจะมีความคืบหน้าหลังรับเรื่องร้องเรียนอย่างไร

จะส่งไม้ต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาดหรือไม่ หากไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญก็จบ แต่หากส่งต้องตามลุ้นคำตัดสินต่อว่าจะชี้ออกอย่างไร จะให้รัฐมนตรีทั้ง 9 คนพ้นสภาพการเป็นเสนาบดีหรือไม่ หากต้องพ้นสภาพก็จะเกิดแรงกระเพื่อมในรัฐบาลทหารคสช.เพราะต้องปรับใหม่ถึง 9 ตำแหน่ง

กรณีนี้น่าสนใจติดตามอีกว่าหากมีรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติ ท่านผู้นำจะปรับเปลี่ยนทั้งหมด หรือจะใช้อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญตามมาตรา 44 ให้รัฐมนตรีอยู่ทำงานต่อ อย่างไรก็ตาม เรื่องคงไม่เกิดขึ้นเร็ววันนี้เพราะยังมีกระบวนการที่ต้องใช้เวลาพิจารณาอีกพอสมควร

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่น่าติดตามคืออนาคตของแกนนำคนเสื้อแดงอย่าง นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ และพวกรวม 6 คน ที่ถูกสถานีตำรวจพัทยา จ.ชลบุรี ออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาฐานก่อความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อปี 2552

คดีนี้สืบเนื่องมาจากกรณีที่ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุกนายอริสมันต์ พงษ์เรือรอง และพวกอีก 12 คน ที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงเป็นเวลา 4 ปี และไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้ทั้งหมดต้องนอนในเรือนจำมาตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา จากกรณีนำกำลังบุกเข้าไปในโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จนทำให้การประชุมผู้นำอาเซียนต้องล่มกลางคัน

โดยแกนนำที่ถูกออกหมายเรียกทั้ง 6 คนยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่พัทยาเพราะนำการชุมนุมอยู่ในกรุงเทพฯ และได้มอบตัวเป็นจำเลยต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดุสิตไปแล้ว จึงได้พยายามเดินเรื่องเพื่อร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

กรณีนี้ถือว่าน่าสนใจ

น่าสนใจว่าแกนนำคนเสื้อแดง 6 คนที่ถูกออกหมายเรียกจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามนัดในวันนี้ (8 พ.ค.) หรือไม่ หากไม่ไปพนักงานสอบสวนจะเดินหน้าทำตามขั้นตอนคือออกหมายเรียกซ้ำอีกครั้งก่อนขอศาลอนุมัติหมายจับหรือไม่

น่าสนใจว่าความพยายามร้องขอความเป็นธรรมจากการถูกออกหมายเรียกครั้งนี้ต่อผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นผลหรือไม่

การออกหมายเรียกครั้งนี้เป็นไปตามคำร้องทุกข์กล่าวโทษขอขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีหลังศาลอุทธรณ์สั่งจำคุกนายอริสมันต์กับพวกโดยไม่ให้ประกันตัว โดยนายณัฐวุฒิกับพวกที่ถูกออกหมายเรียกถูกร้องเอาผิดในฐานะเป็นผู้สั่งการ ใช้ และจ้างวานให้นายอริสมันต์ และพวกบุกล้มการประชุมอาเซียน

แม้จะโดนมาหลายคดี แต่คดีนี้สามารถชี้วัดอนาคตของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงได้เลยทีเดียวว่าจะมีอิสระใช้ชีวิตอยู่นอกเรือนจำได้อีกนานเท่าไหร่ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการต่อสู้ที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าคลิปการปราศรัยที่ถูกใช้เป็นหลักฐานเด็ดในการเอาผิดครั้งนี้นั้นเป็นคลิปของจริงหรือว่าตัดต่อเพื่อกล่าวหาใส่ร้ายกัน

อนาคตของแกนนำการเมืองที่อยู่ตรงข้ามขั้วอำนาจปัจจุบันถือว่าน่าสนใจ เพราะผู้มีอำนาจยังเป็นห่วงหลังลงจากอำนาจปล่อยให้จัดเลือกตั้งแล้วประชาชนจะเลือกขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม จึงอาจจะต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อยก่อนเปิดคูหาให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้ง

เพราะถ้าขั้นอำนาจเดิมยังกลับมา ที่ลงทุนลงแรงไปก็จะเสียเปล่า จึงพูดอย่างไม่กั๊กว่าหากต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต้องเลือกคนใหม่

คำถามคือคนใหม่ที่ต้องการให้เลือกคือใคร ใหม่เลยหรือว่าขอแค่คนละขั้วกับฝ่ายตรงข้าม


You must be logged in to post a comment Login