- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 6 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
‘ธุรกิจการศึกษา’สหรัฐซบ
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2017/05/Student2.jpg)
แม้มาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามชาวมุสลิม 6 ประเทศ เดินทางเข้าสหรัฐ จะถูกศาลยับยั้งการบังคับใช้ชั่วคราว แต่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ทรัมป์เอฟเฟกต์” (Trump effect) ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน
ธุรกิจส่วนหนึ่งในสหรัฐ ที่เผชิญ “ทรัมป์เอฟเฟกต์” จากมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วยการท่องเที่ยว โรงแรม และ ”ธุรกิจการศึกษา” ระดับอุดมศึกษา
สำหรับประเทศที่ตกเป็นเป้าคำสั่งห้ามของทรัมป์ ประกอบด้วยอิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน
แม้ผู้นำสหรัฐจะอธิบายว่า คำสั่งห้ามใช้กับผู้ไม่มีเอกสารเดินทางอย่างถูกต้อง และผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย โดยไม่ได้ห้ามพลเมืองในประเทศเป้าหมายทั้งหมด
แต่ทำให้ต่างชาติเกิดความไม่มั่นใจ ด้วยรู้สึกว่ารัฐบาลของทรัมป์ ไม่เต็มใจต้อนรับต่างชาติ ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหน และนับถือศาสนาใด
สำหรับผลกระทบต่อสถาบันการศึกษา จากการสำรวจของสื่ออเมริกันพบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของมหาวิทยาลัยภาครัฐขนาดใหญ่จำนวน 25 แห่ง มียอดนักศึกษาใหม่จากต่างประเทศเข้าเรียนระดับปริญญาตรีลดลง
จำนวนนักศึกษานานาชาติที่เข้าใหม่ของ University of Arizona ลดลงจากเทอมเดียวกันในปีที่แล้ว 24% ขณะ California State University ลดลง 26% และ University of Houston ลดลง 32%
แม้สถานการณ์ของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยบางแห่งจะสวนกระแส คือมีนักศึกษานานาชาติเข้าใหม่เพิ่มขึ้น แต่ผู้อยู่ในวงการระดับอุดมศึกษาของสหรัฐยอมรับว่า “ทรัมป์เอฟเฟกต์” ทำให้นักศึกษาต่างชาติในภาพรวมลดลง
ส่งผลให้สถาบันที่พึ่งพารายได้จากส่วนนี้เป็นหลัก ตกที่นั่งลำบาก ต้องงัดกลยุทธ์ด้านการตลาดออกมาสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติ หวังกระตุ้นยอดนักศึกษานานาชาติให้กลับสู่ระดับเดิม หรือมากกว่าเดิม
เริ่มจากมหาวิทยาลัยเอกชน TempleUniversity แห่งฟิลาเดลเฟีย ทำวิดีโอโฆษณา “ส่งเสริมการขาย” เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของตน โดยนำนักศึกษาและเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยมาทักทายเป็นภาษาอังกฤษ “You are welcome here” และอีกหลายภาษาในความหมายเดียวกัน
จากนั้น มีสถาบันอื่นกว่า 100 แห่ง เลียนแบบทำโฆษณาลักษณะคล้ายกัน ขณะ University of Florida เพิ่มออพชั่นให้สอบถามทางวิดีโอออนไลน์ เสริมกับวิดีโอโฆษณา
สำหรับ “ทรัมป์เอฟเฟกต์” ในกรณีนี้ แม้จะเป็นข่าวขนาดย่อมตามสื่อต่าง ๆแต่ถือเป็นเรื่องใหญ่ของเจ้าของรวมทั้งคณะบริหาร ของสถาบันที่ได้รับผลกระทบ
You must be logged in to post a comment Login