- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
เนติวิทย์เอฟเฟ็ค

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
กรณีดราม่าในสังคมไทยหลัง นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปี 2560 ที่คนหลายระดับตั้งแต่ระดับผู้นำประเทศ แกนนำกลุ่มการการเมือง นักวิชาการ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง สื่อให้ความสนใจแสดงความเห็นกันในหลากหลายแง่มุม ในหลายความเห็น เป็นการบ่งชี้แนวคิดตัวตนของผู้ที่ออกมาคอมเมนต์ได้เป็นอย่างดีว่าวางตัวเองไว้ตำแหน่งไหน อย่างไร ในสังคมประชาธิปไตย
หลายคนเสียมวย เสียรังวัด และถูกถอนหงอกไปเรียบร้อย หลังลดตัวมาโต้วาทะกับเด็ก
เรื่องนายเนติวิทย์ น่าจะมีประเด็นให้สังคมได้ดราม่ากันอีกเป็นระยะ และต้องคิดตามดูกันยาวๆโดยเฉพาะเมื่อถึงวาระที่ต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในสถาบันหลายอย่างตามที่ประกาศไว้
กรณีของนายเนติวิทย์จึงไม่ใช่เรื่องของเด็กคนเดียว และไม่ใช่แค่เรื่องภายในของสังคมคนจุฬาฯ
แต่ส่งผลสะเทือนออกมาถึงสังคมใหญ่ภายนอก ไม่ต่างอะไรจากประโยคที่ว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” เพราะหากเป็นแค่เรื่องภายในรั้วสถาบันการศึกษา เป็นเพียงเรื่องของหน่วยย่อยในสังคม คงไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเปลืองตัวออกมาแสดงความเห็นกันอย่างมากมายในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หากนายเนติวิทย์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างที่ประกาศเอาไว้ น่าจะเป็นแรงขับให้ใครอีกหลายคนที่ต้องการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไปในทางที่ดี ในทางก้าวหน้า มีกำลังใจ เพราะเด็กได้แสดงความกล้าหาญและลงมือทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วโดยไม่เกรงต่อผลกระทบที่จะตามมา
ที่สำคัญยังเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่าสังคมให้การสนับสนุนคนที่มีความคิดก้าวหน้า สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อยุคสมัย ไม่เช่นนั้นนายเนติวิทย์คงไม่ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาจุฬาฯ ทั้งที่เพิ่งเข้าเป็นนักศึกษาในชั้นปีที่ 1
หรือหากนายเนติวิทย์ไม่สามารถกระทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆได้ตามที่ประกาศไว้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เกิดประเด็นสาธารณะที่มีการถกเถียง ไม่ว่าจะเป็นการถกเถียงกันด้วยเหตุผล หรืออารมณ์ ซึ่งได้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลต่อส่วนรวม เพราะในทุกการถกเถียงย่อมทำให้เกิดปัญญา และทำให้มองเห็นอะไรรอบคอบ หลายด้านมากขึ้น
เรื่องนี้คงต้องติดตามกันยาวๆ เพราะเชื่อว่าจะเป็นประเด็นร้อนให้สังคมได้ถกเถียงกันอีกแน่นอน
ถ้านายเนติวิทย์ทำได้ อาจทำให้เกิดเนติวิทย์สอง สาม สี่ขึ้นในสถาบันการศึกษาอื่น และอาจขยายออกมาสู่สังคมนอกรั้วสถาบันการศึกษา อาจเป็นแรงขับ แรงผลักดันให้หลายคนลุกขึ้นมาเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ควรจะเป็น
อาจเกิดปรากฏการณ์เนติวิทย์เอฟเฟ็คก็ได้ ใครจะไปรู้
You must be logged in to post a comment Login