ศึกพยาบาลยกแรก

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ทิศทางการเมืองสัปดาห์นี้ยังต้องโฟกัสไปที่เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยผู้ตรวจการแผ่นดินจะประชุมหารือกันในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ว่าจะส่งเรื่องต่อไปให้ศาลปกครองพิจารณาชี้ขาดตามคำร้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยหรือไม่

ประเด็นที่หลายฝ่ายรอลุ้นกันคือการวางเงินมัดจำงวดแรก 700 ล้านบาทหลังตกลงเซ็นสัญญาจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ หากผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องไปยังศาลปกครอง ศาลฯจะชี้ขาดได้ทันก่อนการวางเงินมัดจำงวดแรกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หากผู้ตรวจการแผ่นดินแทงเรื่องทิ้ง มีมติไม่ส่งเรื่องให้ศาลปกครอง กระบวนการตรวจสอบทางข้อกฎหมายเป็นอันจบ

เรื่องซื้อเรือดำน้ำสัปดาห์นี้คงจะเห็นทิศทางชัดเจนว่าเรื่องจะจบหรือมีประเด็นต้องให้ติดตามต่อในชั้นศาลปกครอง

เรื่องร้อนอีกเรื่องที่ปะทุขึ้นมาช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วคือเรื่องที่บรรดาพยาบาลออกมาขีดเส้นให้บรรจุเป็นข้าราชการก่อนวันที่ 30 กันยายนนี้ หากยังไม่ได้รับการบรรจุรจะพากันลาออกยกกระทรวง

แม้จะเป็นเรื่องร้อนแต่รัฐบาลยังพอมีเวลาได้หายใจ

ปัจจุบันพยาบาลในกระทรวงสาธารณสุขมี 100,855 คน แยกเป็นข้าราชการ 87,252 คน พนักงานราชการ 260 คน พนักงานกระทรวงสาธารณสุข 6,538 คน และลูกจ้างชั่วคราว 6,805 คน

ปี 2559 ที่ผ่านมาบรรจุไปแล้ว 1,700 ตำแหน่ง ปี 2560 มีตำแหน่งว่าง 2,621 ตำแหน่ง โดย 1,200 ตำแหน่งจะได้บรรจุภายใน 1-2 เดือนนี้ อีก 600 ตำแหน่งได้บรรจุภายในเดือนกันยายน และเดือนตุลาคมจะมีพยาบาลเกษียณอายุราชการอีก 800 ตำแหน่งซึ่งจะทำให้สามารถบรรจุเพิ่มได้อีก

อย่างไรก็ตาม มีพยาบาลที่รอการบรรจุเป็นข้าราชการอีกหมื่นกว่าอัตราจำนวนตำแหน่งว่างที่สามารถบรรจุได้จึงไม่เพียงพอ ซึ่งบางคนรอบรรจุเป็นข้าราชการมานานแล้ว

เหตุที่พยาบาลต้องการให้บรรจุเข้าเป็นข้าราชการเพราะเมื่อเปรียบเทียบระหว่างพยาบาลที่ได้รับการบรรจุกับผู้ที่เป็นลูกจ้างชั่วคราว ผู้ที่บรรจุจะมีการปรับเงินเดือน 2 ครั้งต่อปี ครั้งละ 800-1,000 บาท ลูกจ้างชั่วคราวมีการปรับ 1 ครั้งต่อปี ขึ้นเพียงครั้งละ 500 ขณะที่ผู้ที่ได้รับบรรจุจะได้เงินเดือนแรกเข้า 15,000 บาท และลูกจ้างชั่วคราวได้ประมาณ 13,000 บาท ส่วนค่าเวรหากมีการทำล่วงเวลามากกว่า 22 วันต่อเดือน จะได้ค่าตอบแทนวันละ 600 บาท ซึ่งก็จะไม่เกิน 3 วัน เท่ากับ 1,800 บาท และค่าเข้าเวรกลางคืนจะได้วันละ 240 บาท ซึ่งจะได้เข้าประมาณ 10 วันต่อเดือน ก็จะได้ประมาณ 2,400 บาท เมื่อรวมแล้วจะได้เพิ่มเต็มที่ประมาณ 4200 บาท แต่ก็จะได้เพียงบางโรงพยาบาลเท่านั้น

ทั้งนี้ เมื่อจับทิศทางจากผู้มีอำนาจที่ให้ความเห็นแล้วน่าจะใช้วิธีแก้ปัญหาโดยการเกลี่ยตำแหน่งว่างอื่นในกระทรวงสาธารณสุขที่มีถึง 11,213 อัตรา มากำหนดเป็นตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

การขู่ลาออกยกกระทรวง แม้จะดูเป็นเรื่องร้อนประเด็นใหญ่ แต่หากพิจารณาจากจำนวนพยาบาลวิชาชีพขั้นต่ำที่องค์การอนามัยโลกกำหนดว่า ควรมีพยาบาลวิชาชีพอย่างน้อย 20 คนต่อประชากร 10,000 คน แต่ของไทยมีพยาบาลวิชาชีพ 21.4 คนต่อประชากร 10,000 คน ถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ คำขู่ว่าจะพากันลาออกของคนที่ยังไม่ได้รับการบรรจุคงไม่มีผลถึงต้องให้คณะรัฐมนตรีแก้มติเมื่อวันที่เมื่อ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่ไม่อนุมัติ บรรจุพยาบาลเข้ารับราชการ 10,992 อัตรา

You must be logged in to post a comment Login