ท้าทายผลงาน?

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

หลังคึกคักรวบรวมสิ่งที่ได้ทำมาตอลด 3 ปี เพื่อแถลงเป็นผลงานในโอกาสครบรอบการยึดอำนาจบริหารประเทศ แต่ล่าสุดจะไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะรวบยอดเอาไว้ชี้แจงตอนสิ้นปีงบประมาณในช่วงเดือนกันยายนแทน

ในโอกาสที่จะครบรอบ 3 ปี ของการยึดอำนาจอาจมีเรื่องให้รัฐบาลทหารคสช.ต้องหัวเสียเล็กน้อย เพราะความสงบที่ชูเป็นจุดขายถูกท้าทายอีกครั้งในช่วงค่ำวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อเกิดเสียงระเบิดบริเวณโรงละครแห่งชาติ ใกล้สนามหลวง สถานที่ที่เป็นทั้งสัญลักษณ์ทางการเมือง และสถานที่ที่ใกล้กับที่ใช้จัดงานสำคัญของชาติ

ย้อนไปก่อนหน้านี้ไม่นาน หากจำกันได้ ก็มีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นแถวบริเวณสำนักงานสลากกินแบ่งเก่า ถนนราชดำเนิน ซึ่งก็อยู่ไม่ห่างจากสนามหลวงเท่าไหร่นัก ครั้งนี้เสียงระเบิดดังใกล้เข้าไปกว่าเดิมอีก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยอมรับว่าแม้สถานการณ์โดยทั่วไปดูเป็นปรกติ แต่ยังมีคนไม่ดีคอยจ้องอยู่ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการปิดบังข้อมูล แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนก แม้เป็นเรื่องยากในการติดตามจับกุมตัวผู้กระทำ แต่ก็จะพยายามตามจับให้ได้

สิ่งที่เป็นจุดบอดที่ทำให้การติดตามคนก่อเหตุได้ยากดูเหมือนจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อว่าใกล้วันครบรอบทำงาน 3 ปี ของคสช.อาจมีคนต้องการสร้างเหตุเพื่อดิสเครดิต

“ผมได้สั่งการให้จับตาบุคคลที่เข้าข่ายอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ขอตอบว่าเป็นกลุ่มใด เพราะหากไม่ตรง อาจโดนฟ้องได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวดำเนินการทั่วประเทศ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนมีความตั้งใจทำทุกเรื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นคงในอนาคต จะเห็นได้ว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศมีความเรียบร้อยดี และพัฒนาไปมาก ตัวเลขเศรษฐกิจก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น” พล.อ.ประวิตร กล่าว

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก แต่ท่าทีของ พล.อ.ประวิตร กลับสวนทางแสดงให้เห็นว่าการข่าวพบการเคลื่อนไหวอะไรอยู่พอสมควร

น่าสนใจว่าหลังจากนี้จะมีเสียงบึ้มเกิดขึ้นที่ไหนอีกหรือไม่ และหากมี เป็นฝีมือของฝ่ายใด มีจุดประสงค์อะไร

น่าสนใจไปกว่านั้นคือหากมีเสียงบึ้มเกิดขึ้นอีก และยังไม่สามารถจับผู้ก่อเหตุได้ จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะมารวมตัวกันเป็นจำนวนมากในพิธีสำคัญช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้หรือไม่

ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำ ไม่ว่าจะมีจุดประสงค์เพื่ออะไร ไม่ว่าจะต้องการดิสเครดิตรัฐบาลทหารคสช.อย่างที่ผู้มีอำนาจกล่าวไว้หรือไม่

แต่สิ่งหนึ่งที่ปรากฏให้เห็นเด่นชัดหลังเกิดเสียงระเบิดคือยังไม่มีความปรองดองภายในชาติเกิดขึ้นจริง และความสงบที่ชูเป็นผลงานเด่นของรัฐบาลทหารคสช.นั้นไม่ใช่ความสงบที่แท้จริง

เสียงระเบิดจึงสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลทหารคสช.ล้มเหลวในการสร้างความสมานฉันท์ปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศ

อย่างไรก็ตาม เสียงดังคล้ายระเบิดก็เหมือนถูกใช้ประจานความล้มเหลวที่รัฐบาลทหารคสช.อ้างว่าเป็นผลงานเด่นที่สุด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำให้ผู้มีอำนาจมองว่าอาจเป็นการดิสเครดิต

You must be logged in to post a comment Login