- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
เส้นทาง‘โจรค่าไถ่’ออนไลน์

การที่โจรนิรนามส่งไวรัส “วอนนาคราย” (WannaCry) ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ไป “จับกุม” ข้อมูลในคอมพิวเตอร์เป็นตัวประกันเรียกค่าไถ่ ที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย
ถือเป็นการก่ออาชญากรรมในโลกไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุด และสร้างความเสียหายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
นอกจากนั้น ยังสร้างความสับสนอลหม่านในวงกว้าง เนื่องจากไม่เข้าใจสาเหตุและที่มาที่ไปของเหตุการณ์นี้ ขณะผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากรู้สึกหวาดผวา เกรงจะถึงคิวตกเป็นเหยื่อโจรนิรนามแห่งโลกไซเบอร์ ที่มีมัลแวร์วอนนาครายเป็นอาวุธร้าย
คนร้ายก่อเหตุ “เรียกค่าไถ่” เขย่าโลกครั้งนี้ มีจุดประสงค์เดียวกับโจรเรียกค่าไถ่ทั่วไป นั่นคือ ต้องการเงิน โดยโจรใช้วิธีส่งมัลแวร์วอนนาครายเข้าไปล็อกระบบของคอมพิวเตอร์ ทำให้ไม่สามารถเปิดใช้งานข้อมูลและไฟล์ภาพในคอมพิวเตอร์ได้
พร้อมกันนั้น คนร้ายจะเขียนข้อความบังคับให้เจ้าของคอมพิวเตอร์ ส่งเงินให้เพื่อแลกกับรหัสมาปลดล็อก โดยบอกวิธีการส่งเสร็จสรรพ สำทับด้วยการกำหนดเวลาส่งเงิน อาจให้เวลาผู้ตกเป็นเหยื่อ 24 ชั่วโมง 3 วัน หรือ 7 วัน มีย้ำด้วยว่า ยิ่งส่งช้าค่าไถ่จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
หากไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอ คนร้ายจะ “สั่ง” มัลแวร์ให้ทำลายข้อมูลและไฟล์ภาพทั้งหมดในคอมพิวเตอร์
“เงิน” ที่คนร้ายต้องการ คือ“บิทคอยน์” (Bitcoin) เป็นสกุลเงินดิจิทัล หรือเงินตัวเลขใช้ซื้อสินค้าและทำธุรกรรมทางการเงินในโลกอินเทอร์เน็ต มีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 59,600 บาท/บิทคอยน์ (1 บิทคอยน์ มีค่าเท่ากับ 59,600 บาท)
ค่าของบิทคอยน์เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับระดับความต้องการของกลุ่มคนใช้ เป็นเงินที่ผู้ค้าออนไลน์ส่วนหนึ่งใช้กัน สามารถแลกเป็นเงินจริงได้ในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ สหรัฐ และญี่ปุ่น เป็นต้น แต่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรับรองเงินประเภทนี้
“ทีเด็ด” ของบิทคอยน์ คือเป็นสกุลเงินเสรีในโลกอินเทอร์เน็ต ไม่มีประเทศใดเป็นเจ้าของ ใช้ง่ายจ่ายคล่อง เมื่อคนโอนกับคนรับเงินตกลงกันได้ ก็จ่ายได้เลย ไม่ต้องใช้คน หลักทรัพย์ หรือเอกสาร รับรองการรับการโอน
เป็นการทำธุรกรรมทางการเงินที่ไม่มีหลักฐานใด ๆ อีกทั้งไม่สามารถรู้ที่อยู่ที่แท้จริงของผู้รับและผู้โอนด้วย
จากระบบดังกล่าวของบิทคอยน์ ทำให้ตำรวจทั่วโลกตามล่าตัวคนร้ายเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ได้ยาก
ต่อคำถามว่า ประชาคมโลกสามารถกำจัดมัลแวร์ และคนร้ายเรียกค่าไถ่ในโลกไซเบอร์ให้สิ้นซาก ไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีกในอนาคตได้หรือไม่
คำตอบคือ “ไม่สามารถทำได้”
วิธีรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตทรงประสิทธิภาพที่สุด ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือ “การป้องกัน”
You must be logged in to post a comment Login