เจาะงบกองทัพกลุ่มอาเซียน

• Tweet
• 

นอกจากด้านเศรษฐกิจแล้ว กองทัพเป็นอีกภาคส่วนหนึ่งของประเทศ ที่นานาชาติใส่ใจดูแล เพื่อความมั่นคงปลอดภัย และ “ขู่” ศัตรูไปในตัว

การพัฒนากองทัพ ไม่แตกต่างจากการขับเคลื่อนภาคส่วนอื่นของประเทศ โดยต้องใช้งบประมาณเป็นเครื่องมือส่วนหนึ่งช่วยผลักดันแผนงาน

สำหรับประเทศที่ใช้งบพัฒนากองทัพมากสุดในโลกในปีล่าสุด คือปีที่ผ่านมา 5 อันดับแรก รวบรวมโดยสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (Stockholm International Peace Research Institute) แห่งสวีเดน ประกอบด้วยสหรัฐ จีน รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย

สหรัฐครองตำแหน่ง “แชมป์โลก” โดยทุ่มงบเพิ่มศักยภาพด้านการทหารในปีที่แล้วถึง 611,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (21.08 ล้านล้านบาท) มากกว่าจีนเกือบ 3 เท่า

สหรัฐเป็น “จอมทุ่ม” ของโลก ขณะกลุ่มประเทศอาเซียนที่ใช้งบด้านการทหารมากสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วยสิงคโปร์ผงาดอันดับ 1 ควักไป 9,986 ล้านเหรียญสหรัฐ (344,520 ล้านบาท)

ตามด้วยอินโดนีเซีย 7,783 ล้านเหรียญสหรัฐ (268,510 ล้านบาท) ไทย 6,047 ล้านเหรียญสหรัฐ (208,620 ล้านบาท) เวียดนาม 5,005 ล้านเหรียญสหรัฐ (172,672 ล้านบาท) และมาเลเซีย 4,295 ล้านเหรียญสหรัฐ (148,177 ล้านบาท)

ส่วนประเทศที่กองทัพมีศักยภาพที่สุดของอาเซียน หมายถึงกองทัพมียุทโธปกรณ์และกำลังพลมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วยอินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย พม่า และมาเลเซีย
ประเด็นที่ต้องใส่ “หมายเหตุ” สำหรับ 5 เสืออาเซียน หรือ 5 ประเทศที่ใช้จ่ายด้านการทหารมากที่สุดในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ การปรับงบประมาณเพิ่มขึ้นทุกประเทศ ซึ่งตีความได้ว่า ไม่ไว้วางใจสถานการณ์รอบบ้าน ทำให้ต้อง “เพิ่มมัดกล้าม” ให้ใหญ่ล่ำบึ้กเข้าไว้

หรืออาจเป็นไปได้ว่า ฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศ “แจ่มขึ้น” ช่วยให้จับจ่ายได้คล่องขึ้น จากการทำงบประมาณตามสูตร “เศรษฐกิจมั่งคั่ง กองทัพมั่นคง”

อีกหนึ่งประเด็นที่คงอยู่กับความเคลื่อนไหวนี้คือ อาเซียนยังเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่งสำหรับปล่อยสินค้า ของประเทศมหาอำนาจด้านผลิตอาวุธ

ในส่วนของการใช้งบด้านการทหาร กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ของประเทศ ด็อกเตอร์แดน สไตน์บ็อก ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์เศรษฐกิจและการจัดทำนโยบาย แห่งฟินแลนด์ อธิบายความเกี่ยวโยงแบบง่ายๆ ไว้ว่า

“ควรหลีกเลี่ยงทุ่มงบด้านการทหาร หากต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวรวดเร็ว และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนสู่มาตรฐานที่ดีกว่าเดิม”

ข้อมูลภาพ : postmetro.net

You must be logged in to post a comment Login