- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ใครทำ-เพื่ออะไร?
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
เหตุระเบิดที่ห้องจ่ายยานายทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวาน (22 พ.ค.) ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของใคร ทำด้วยจุดมุ่งหมายอะไร เป็นเรื่องที่สมควรประณาม แม้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำเพราะโรงพยาบาลเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วย ไม่ใช่สถานที่ที่ควรก่อเหตุความรุนแรง แม้แต่ในศึกสงครามเขายังหลีกเลี่ยงไม่โจมตี
อย่างไรก็ตาม นอกจากการประณามแล้วยังต้องมาพิจารณาว่าระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้บ่งชี้อะไรบ้าง
ต้องไม่ลืมว่าตั้งแต่ขึ้นศักราชใหม่ในเขตกรุงเทพฯเกิดระเบิดแล้ว 3 ครั้ง
ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่าที่ถนนราชดำเนิน
ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติ สนามหลวง
และครั้งล่าสุดคือระเบิดที่ห้องวงษ์สุวรรณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ความแตกต่างกันระหว่างระเบิดทั้งสามครั้งคือ สองครั้งแรกมีความพยายามจะปฏิเสธว่าไม่ใช่เหตุลอบวางระเบิด และระเบิดก็มีเพียงอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียงดังเท่านั้นไม่มีประสิทธิภาพในการทำลาย
แต่ครั้งหลังสุดที่ห้องวงษ์สุวรรณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีความต่างกันออกไปเมื่อมีการให้ข่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นเหตุลอบวางระเบิด และระเบิดที่คนร้ายใช้ จากการตรวจที่เกิดเหตุพบว่าคล้ายระเบิดแสวงเครื่อง โดยพบหลุมจากแรงระเบิด พบไอซีไทเมอร์ สายไฟ พบเศษตะปูกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 24 ราย โดยมี 3 รายต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด
แม้เบื้องต้นจะไม่มีคำยืนยันว่าเกี่ยวโยงกับเหตุระเบิดสองครั้งก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่ในที่เกิดเหตุก็ตรวจพบสายไฟที่มีลักษณะเดียวกับเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ
หลังเกิดเหตุ ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารตำรวจประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
ประเด็นที่น่าสังเกตคือมีรายงานว่าระเบิดที่ใช้เป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า ถนนราชดำเนิน และพบสายไฟแบบเดียวกับที่ใช้ที่หน้าโรงละครแห่งชาติ
เป็นเหตุระเบิดในรอบ 47 วัน และเป็นระเบิดที่เกิดขึ้นตรงกับวันครบรอบรัฐประหารครบ 3 ปี
แม้การวางระเบิดที่ห้องจ่ายยาภายในโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ไม่สมควรและเป็นเรื่องที่ต้องถูกประณาม แต่เมื่อพิจารณาจากเหตุที่เกิดขึ้นทั้งสามครั้งที่น่าจะมีความเชื่อมโยงกันก็น่าจะพอมองเห็นแรงจูงใจของการก่อเหตุอยู่พอสมควร
ก่อนหน้านี้มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยข่าวเฝ้าระวังเหตุทำนองนี้ทั่วประเทศ เพราะเชื่อว่าจะมีการสร้างสถานการณ์เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะผลงานเด่นชิ้นเดียวที่เชิดหน้าชูตารัฐบาลและคสช.ตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมาคือการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
คงต้องตามดูกันต่อไปว่าฝ่ายความมั่นคงจะสามารถตามจับคนที่ก่อเหตุได้หรือไม่ หากได้ตัวมาจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยไขปริศนาคาใจว่า “ใครทำ ทำเพื่ออะไร” กันแน่
You must be logged in to post a comment Login