วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ใครทำ-เพื่ออะไร?

On May 23, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

เหตุระเบิดที่ห้องจ่ายยานายทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวาน (22 พ.ค.) ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของใคร ทำด้วยจุดมุ่งหมายอะไร เป็นเรื่องที่สมควรประณาม แม้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำเพราะโรงพยาบาลเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วย ไม่ใช่สถานที่ที่ควรก่อเหตุความรุนแรง แม้แต่ในศึกสงครามเขายังหลีกเลี่ยงไม่โจมตี

อย่างไรก็ตาม นอกจากการประณามแล้วยังต้องมาพิจารณาว่าระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้บ่งชี้อะไรบ้าง

ต้องไม่ลืมว่าตั้งแต่ขึ้นศักราชใหม่ในเขตกรุงเทพฯเกิดระเบิดแล้ว 3 ครั้ง

ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่าที่ถนนราชดำเนิน

ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติ สนามหลวง

และครั้งล่าสุดคือระเบิดที่ห้องวงษ์สุวรรณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ความแตกต่างกันระหว่างระเบิดทั้งสามครั้งคือ สองครั้งแรกมีความพยายามจะปฏิเสธว่าไม่ใช่เหตุลอบวางระเบิด และระเบิดก็มีเพียงอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียงดังเท่านั้นไม่มีประสิทธิภาพในการทำลาย

แต่ครั้งหลังสุดที่ห้องวงษ์สุวรรณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีความต่างกันออกไปเมื่อมีการให้ข่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นเหตุลอบวางระเบิด และระเบิดที่คนร้ายใช้ จากการตรวจที่เกิดเหตุพบว่าคล้ายระเบิดแสวงเครื่อง โดยพบหลุมจากแรงระเบิด พบไอซีไทเมอร์ สายไฟ พบเศษตะปูกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 24 ราย โดยมี 3 รายต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด

แม้เบื้องต้นจะไม่มีคำยืนยันว่าเกี่ยวโยงกับเหตุระเบิดสองครั้งก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่ในที่เกิดเหตุก็ตรวจพบสายไฟที่มีลักษณะเดียวกับเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ

หลังเกิดเหตุ ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารตำรวจประชุมกันอย่างเคร่งเครียด

ประเด็นที่น่าสังเกตคือมีรายงานว่าระเบิดที่ใช้เป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า ถนนราชดำเนิน และพบสายไฟแบบเดียวกับที่ใช้ที่หน้าโรงละครแห่งชาติ

เป็นเหตุระเบิดในรอบ 47 วัน และเป็นระเบิดที่เกิดขึ้นตรงกับวันครบรอบรัฐประหารครบ 3 ปี

แม้การวางระเบิดที่ห้องจ่ายยาภายในโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ไม่สมควรและเป็นเรื่องที่ต้องถูกประณาม แต่เมื่อพิจารณาจากเหตุที่เกิดขึ้นทั้งสามครั้งที่น่าจะมีความเชื่อมโยงกันก็น่าจะพอมองเห็นแรงจูงใจของการก่อเหตุอยู่พอสมควร

ก่อนหน้านี้มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยข่าวเฝ้าระวังเหตุทำนองนี้ทั่วประเทศ เพราะเชื่อว่าจะมีการสร้างสถานการณ์เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะผลงานเด่นชิ้นเดียวที่เชิดหน้าชูตารัฐบาลและคสช.ตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมาคือการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง

คงต้องตามดูกันต่อไปว่าฝ่ายความมั่นคงจะสามารถตามจับคนที่ก่อเหตุได้หรือไม่ หากได้ตัวมาจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยไขปริศนาคาใจว่า “ใครทำ ทำเพื่ออะไร” กันแน่


You must be logged in to post a comment Login