เศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มสดใส

• Tweet
• 

อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนในไตรมาสแรกปีนี้ แม้ไม่หวือหวา แต่แฝงนัยแห่งความหวัง หลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยืนยันว่า การขยายตัวจะรุดหน้าไม่มีวกกลับสู่ขาลง

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่มประเทศยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโร 19 ชาติ จากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ทั้งหมด 28 ชาติ ขยายตัวช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-มีนาคม) สูงกว่าไตรมาสก่อน 0.5% และมากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 1.7%

นอกจากตัวเลขออกมาค่อนข้างสวยแล้ว ยูโรสแตทยังเพิ่มสีสันว่า อัตราขยายตัวดังกล่าวสูงกว่าสหรัฐ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก โดยเศรษฐกิจของสหรัฐเติบโตในไตรมาสเดียวกัน 0.2%

อัตราขยายตัวแยกเป็นรายประเทศ มีโรมาเนียเติบโตสูงสุดของกลุ่มที่ 1.7% ตามด้วยฟินแลนด์ 1.6% ลัตเวีย 1.5% ลิทัวเนีย 1.4% และฮังการี 1.3%

ขณะ 4 ประเทศแนวหน้าของกลุ่ม มีสเปนมาอันดับ 1 ขยายตัว 0.8% ตามด้วยเยอรมนี 0.6% ฝรั่งเศส 0.3% และอิตาลี 0.2%

ส่วนประเทศเผชิญวิกฤตการเงินรุนแรงตั้งแต่ปี 2008 ที่สามารถฟื้นกลับมาได้อย่างหวือหวา ได้แก่ โปรตุเกส ซึ่งอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 2.8% เป็นสถิติเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี

อีกหนึ่งความสดใส คือการส่งออกสินค้า โดยยูโรโซนได้เปรียบดุลการค้าเดือนมีนาคม สูงเป็นสถิติใหม่ 30,900 ล้านยูโร ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยอดส่งออกไปยังรัสเซียในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 28% และส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น 22%

ประเทศที่ส่งออกสินค้ามากสุดของยูโรโซน คือเยอรมนี

ด้านอัตราว่างงานปรับลดลง ตัวเลขในเดือนมีนาคมอยู่ที่ 9.5% แม้จะยังเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูง แต่เป็นสถิติลดลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี

ขณะภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างหนึ่ง อีซีบีระบุว่าอยู่ในเกณฑ์มีเสถียรภาพ จากตัวเลขเดือนเมษายนอยู่ที่ 1.9% เพิ่มขึ้นจาก 1.5% ในเดือนมีนาคม

แม้เศรษฐกิจจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นแล้ว แต่อีซีบียืนยันว่า จะดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยแผนอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบต่อไป อย่างน้อยถึงสิ้นปีนี้

อีซีบีระบุว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะเติบโตต่อไปอย่างมีเสถียรภาพ โดยมีความเสี่ยงน้อยที่จะกลับสู่ลงขา ขณะนักวิเคราะห์มองในทิศทางเดียวกันว่า อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในไตรมาส 2 จะมากกว่าไตรมาสแรก

การพลิกฟื้นสู่ทิศทางขาขึ้นของเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนดังกล่าว บวกกับแนวโน้มจะไปต่อได้อย่างมั่นคง ถือเป็นพัฒนาการที่ส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจของโลกในภาพรวม

ซึ่งประเทศไทยก็น่าจะมีผลพลอยได้ด้วย

You must be logged in to post a comment Login