วันพฤหัสที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

อาร์ทีบีฯกางแผนปี2560หวังดันยอดขายเติบโต30%

On May 26, 2017

ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวถึงทิศทางของตลาดอุปกรณ์เสริม หรือ โมบาย ไลฟ์สไตล์ (Mobile Lifestyle) ในเมืองไทยว่า ในปี 2560 ภาพรวมของตลาดเริ่มมีทิศทางเติบโตดีขึ้น หลังจากตลาดซบเซาต่อเนื่องกันมา 2-3 ปี โดยคาดการณ์ว่าตลาดรวมอุปกรณ์เสริม หรือ โมบาย ไลฟ์สไตล์ (Mobile Lifestyle) จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับอาร์ทีบีฯ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2560 รวม 300 ล้านบาท เติบโตขึ้น 30% โดยในส่วนของตลาดหูฟังบลูทูธมียอดจำหน่ายคิดเป็นสัดส่วน 50% จากตลาดรวม 250 ล้านบาท ซึ่งทำให้อาร์ทีบีฯ เป็นอันดับ 1 ในตลาดหูฟังบลูทธูติดต่อกันมาหลายปีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดหูฟังบลูทูธกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากปัจจุบันหูฟังรุ่นใหม่ๆ จะเพิ่มฟังก์ชั่นบลูทูธเข้ามาแทบจะทุกรุ่น เพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้าในปัจจุบัน

“ในฐานะผู้นำด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์เสริมและสินค้า Connected Device อาร์ทีบีฯ จึงต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง เราคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เปลี่ยนไปจากการขยายตัวของเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยเฉพาะ Internet of Things (IOTs) ที่ทำให้อุปกรณ์แก็ดเจ็ทต่างๆ สามารถใช้งานได้ง่ายและเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ต ทั้งยังส่งผลให้ไลฟ์สไตล์ลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้อาร์ทีบีฯ ได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ จะมุ่งทำตลาดเชิงรุกมากขึ้นเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านการผนึกกำลังกับแบรนด์ระดับโลกที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ที่กำลังเติบโต โดยล่าสุดอาร์ทีบีฯ ได้จับมือกับ บี แอนด์ โอเพลย์ หรือ B&O Play ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก ที่มีต้นกำเนิดจากแบรนด์ระดับตำนานของโลก แบงก์ แอนด์ โอลาฟเซ่น (Bang & Olufsen) นำสุดยอดนวัตกรรมและดีไซน์หูฟังและลำโพงมาทำตลาด โดยเชื่อว่าการรุกจับมือกับแบรนด์ชั้นนำในครั้งนี้จะทำให้อาร์ทีบีฯ สามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้นไปยังกลุ่มที่ชื่นชอบการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยเฉพาะคอเพลงที่มีไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟและชื่นชอบดีไซน์”

คุณวิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า บี แอนด์ โอ เพลย์ หรือ B&O PLAY ซึ่งอยู่ภายใต้ แบงก์ แอนด์ โอลาฟเซ่น หรือ Bang & Olufsen (B&O) เป็นแบรนด์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์จากประเทศเดนมาร์กที่ประสบการณ์มามากถึง 90 ปี โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การสร้างสรรค์คุณภาพเสียงดนตรีสุดคมชัดและสมจริงอย่างเป็นธรรมชาติ ผสานกับการผลิตด้วยวัสดุชั้นเยี่ยมที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เน้นความเรียบหรู และอมตะ โดยการเปิดตลาดในครั้งนี้อาร์ทีบีฯ ได้ส่งคอลเลคชั่นรุ่นยอดนิยมอย่าง “Spring/Summer 2017” ซึ่งเป็นรุ่น Limited Edition ของลำโพง Beoplay A1 ที่มีวางจำหน่ายเพียง 60 ตัวที่สยามดิสคอฟเวอรี่เท่านั้น และลำโพงรุ่นเล็กแต่ทรงพลังทั้งด้านเสียง ดีไซน์ และฟังก์ชั่นอย่าง Beoplay P2 เพื่อเอาใจคนรักเสียงเพลงคุณภาพ และหลงใหลในดีไซน์

“จากประสบการณ์ที่อาร์ทีบีฯ ทำธุรกิจในตลาดนี้มามากกว่า 10 ปี เราพูดได้เลยว่าแบรนด์ B&O PLAY เป็นสินค้าที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบของตัวสินค้า หรือการสื่อสารทางการตลาดต่างๆ B&O PLAY จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทั้งด้านการใช้งานสินค้า ไลฟ์สไตล์ และด้านความรู้สึก ซึ่งสะท้อนออกมาในสโลแกนของแบรนด์ที่ว่า Make Beautiful Music”

สำหรับ Beoplay A1 เป็นลำโพงบลูทูธไร้สายที่มีขนาดกะทัดรัด ที่ทรงพลัง โดยมาพร้อมดีไซน์เรียบหรู และมีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกับลำโพงใดๆ ด้วยตัวเครื่องเป็นวงกลมแบน เพื่อวางบนโต๊ะ เพื่อให้เสียงได้รอบ 360 องศา ด้านบนมีสายห้อยพร้อมสัญลักษณ์ B&O PLAY สำหรับแขวนไว้ในจุดต่างๆ ได้ ถัดจากสายห้อยจะมีปุ่มฟังก์ชั่นสำหรับใช้งานในการเชื่อมต่อบลูทูธ ปรับระดับเสียง และไมค์โครโฟนสำหรับสนทนา นอกจากนี้ ยังมาพร้อมคุณสมบัติป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ รวมถึงระบบ Digital Signal Processing ที่ช่วยลดการผิดเพี้ยนของเสียงขณะเร่งเสียงดังอีกด้วย โดยลำโพง Beoplay A1 สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องได้ถึง 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จผ่านสาย USC-C 1 ครั้ง นอกจากนั้น ยังสามารถใช้งานร่วมกับแอ็พฯ B&O PLAY เพื่อปรับจูนเสียงตามความชอบ หรือเพื่อเชื่อมต่อลำโพง Beoplay A1 2 เครื่องพร้อมกันให้เล่นเป็นลำโพงระบบสเตอริโอ เพื่อใช้ดูหนัง และฟังเพลงให้ได้เต็มอรรถรส หรือเชื่อมในระบบ amplifier เพื่อให้ลำโพงสองตัว สามารถเล่นเพลงเดียวกันได้จากคนละจุดในบ้าน ในส่วนของวัสดุผลิตจากอะลูมิเนียม ให้ความเรียบ สวยงาม และความแข็งแรงไปพร้อมๆ กัน โดยคอลเลคชั่นพิเศษมีให้เลือก 3 สี คือ สี Tangerine red สี Sand Stone และสี Charcoal Sand ในราคา 10,500 บาท

ส่วน Beoplay P2 เป็นลำโพงบลูทูธพกพาขนาดเล็กเท่าฝ่ามือที่มาพร้อมกับการดีไซน์ที่เหนือชั้น ด้วยสไตล์การออกแบบที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวทันสมัย พร้อมอัดแน่นด้วยคุณภาพเสียงสุดคมชัด ทรงพลังเกินตัว นอกจากนี้ ยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันให้รองรับทุกสภาพอากาศทั้งการกันละอองน้ำและฝุ่นละออง เพื่อให้คุณสามารถจะพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัว มีเซ็นเซอร์ระบบสัมผัสติดตั้งไว้ที่บริเวณลำโพงด้านหน้า เมื่อผู้ใช้งานแตะติดกันสองครั้งหรือเขย่าจะเป็นการควบคุมการเล่นเพลง นอกจากนั้นสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ตั้งนาฬิกาปลุกได้ โดยตั้งค่าต่างๆ ผ่านแอพของ B&O PLAY ขณะที่ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอะลูมินั่ม ทำให้มีความทนทาน และให้เสียงชัดกระจ่างใส โดยมาพร้อมแบตเตอรี่สำหรับเล่นเพลงได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงต่อรอบการชาร์จ มีให้เลือก 3 สี ในราคา 7,890 บาท

สำหรับลำโพงทั้งสองรุ่นนี้ พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยรุ่น Beoplay A1 คอลเลคชั่นมีเพียง 60 ตัวเท่านั้น!! พร้อมกันนี้ อาร์ทีบีฯ ยังมีผลิตภัณฑ์หูฟังและลำโพงรุ่นใหม่ของ B&O PLAY มาอวดโฉมอีกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบ Headphone อย่าง Beoplay H4, H7, H8 และ H9 หูฟัง In-ear แบบมีสายรุ่น Beoplay H3 H3ANC หูฟัง In-ear แบบบลูทูธ สำหรับออกกำลังกายยอดนิยมอย่าง Beoplay H5 หรือลำโพงไร้สาย Beoplay A2 Active นอกจากนั้น พร้อมจะส่งสินค้ารุ่นใหม่ๆตามเข้ามาอีกมากมายในตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ไฮเอนด์กลุ่มนี้ยิ่งขึ้นด้วย

คุณอเล็กซ์ ชาน ผู้จัดการทั่วไป ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกภายใต้แบรนด์ แบงก์ แอนด์ โอลาฟเซ่น หรือ Bang & Olufsen (B&O Play) กล่าวว่า “ด้วยนโยบายของบริษัทที่ต้องการขยายตลาดผลิตภัณฑ์หูฟังและลำโพงของแบงก์ แอนด์ โอลาฟเซ่น หรือ Bang & Olufsen (B&O) ให้ครอบคลุมในประเทศต่างๆ มากขึ้น ล่าสุดบริษัทจึงได้แต่งตั้งให้ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์หูฟังและลำโพงอย่างเป็นทางการในประเทศไทย (Exclusive Distributor) เนื่องจากเล็งเห็นว่าอาร์ทีบีฯ มีความเชี่ยวชาญในด้านนวัตกรรมหูฟังและลำโพงคุณภาพ พร้อมทั้งมีความแข็งแกร่งด้านการตลาดและช่องทางจัดจำหน่าย โดยมั่นใจว่าการร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเมืองไทยมากยิ่งขึ้น”


You must be logged in to post a comment Login