- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
เวียดนามผลักดัน‘ทัวร์ทำฟัน’

เวียดนามเป็นเพื่อนบ้านที่ดีประเทศหนึ่งของไทย ในขณะเดียวกัน หากมองด้านการแข่งขันทางธุรกิจและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เวียดนามถือเป็นคู่แข่งที่ไทยประมาทไม่ได้แม้แต่น้อย
การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหนึ่ง ที่เวียดนามพยายามส่งเสริมเพื่อไล่จี้ไทย หวังตามให้ทัน และแซงนำหน้าในที่สุด โดยพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้อง และเพิ่มมาตรการจูงใจนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มตัวเลือกให้หลากหลายขึ้น
การท่องเที่ยวเชิงทันตกรรม (Dental Tourism) หรือการให้บริการด้านทันตกรรมแก่นักท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่เวียดนามพยายามผลักดัน หวังใช้ชิงนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศคู่แข่งซึ่งรวมทั้งไทย
ปัจจุบัน ไทยครองอันดับหัวแถวในกลุ่มอาเซียน ด้านบริการ “ทัวร์ทำฟัน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ขณะสื่อออนไลน์ต่างประเทศหลายค่าย ยกไทยเป็นประเทศชั้นนำของเอเชียในด้านนี้
แชนนอน อุลแมน นักเขียนอิสระ เขียนบทความลงในเว็บไซต์ huffingtonpost.com ของสหรัฐ แนะนำนักท่องเที่ยวที่ต้องการทำฟันและรักษาฟันในไปตัว ให้เลือกเยือนไทย โดยให้เหตุผลว่า เป็นประเทศที่มีบริการทันตกรรมราคาถูก บางรายการถูกกว่าในสหรัฐถึง 5 เท่า
นอกจากนั้น ทันตแพทย์ไทยยังมีความเชี่ยวชาญระดับโลก ทำให้ผลงานมีคุณภาพและปลอดภัย อีกทั้งมีบริการหลายรายการ เช่น รักษารากฟัน อุดฟัน ใส่ฟันเทียม และจัดฟัน เป็นต้น
ประเด็นที่สำคัญไม่ด้อยไปกว่ากัน คือ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและศูนย์ทันตกรรม มีมนุษยสัมพันธ์ดีกับชาวต่างชาติผู้ใช้บริการ
เวียดนามรู้จุดแข็งดังกล่าวของไทย และนำไปใช้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบบริการของตน ซึ่งเท่าที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง สามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้บริการได้ปีละประมาณ 100,000 คน สร้างรายได้รวม 150 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ปีล่าสุดของเวียดนาม มียอดรวมมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับแผนระยะยาว เวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า อีก 5 ปีข้างหน้า จะใช้บริการทันตกรรมดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศให้ได้ปีละ 250,000 คน เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 250%
นครโฮจิมินห์เป็นเมืองใหญ่แห่งแรกของเวียดนาม ที่ประกาศผลักดันบริการนี้อย่างจริงจัง โดยจะเปิดศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติในโรงพยาบาลทันตกรรม และประชาสัมพันธ์คลินิกที่ได้มาตรการให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
นครโฮจิมินห์วางแผนไว้ว่า จะใช้การให้บริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และค่าบริการถูก เป็นจุดขายสำคัญในการชิงนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศคู่แข่ง
You must be logged in to post a comment Login