- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ความปลอดภัยในโรงเรียน / โดย ภูริวรรณ วรานุสาสน์
คอลัมน์ : China Today
ผู้เขียน : ภูริวรรณ วรานุสาสน์
จากการประชุมของคณะรัฐมนตรีจีนได้มีมติเกี่ยวกับนโยบายความปลอดภัยในสถานศึกษาว่า นักเรียนนักศึกษาคนใดสร้างความรุนแรงใดๆในสถานศึกษาจะต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมายของประเทศ นอกจากนี้ยังมีการกำหนดมาตรฐานในการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาทั่วประเทศอีกด้วย
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เปิดเผยว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาและระดับอนุบาลนั้น โรงเรียนจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อนักเรียนโดยรวมเป็นส่วนใหญ่ก่อน
กล่าวคือ โรงเรียนจำเป็นต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ตั้งแต่โรงเรียนที่แข็งแรงขนาดเดียวกับโรงเรียนที่สร้างขึ้นหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดที่เด็กๆสามารถเข้าไปอาศัยหลบภัยได้ ขณะที่ในระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยจะต้องเป็นสถานที่ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของนักศึกษาและผู้ที่อาศัยในบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก ต้องให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยและมีความสุข
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังกล่าวอีกว่า อธิการบดีและผู้อำนวยการคือผู้รับผิดชอบสูงสุดในการรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยและโรงเรียน ขณะที่นักเรียนนักศึกษาจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับคุณค่าของชีวิตและการเคารพสิทธิของเพื่อนร่วมชั้นและของคนอื่น นอกจากนี้ สถานศึกษาจะต้องจัดจ้าง “เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ” และใช้กล้องวงจรปิดเพื่อสอดส่องอันตรายหรือปัจจัยต่างๆที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้
นอกจากระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว ทางสถานศึกษาจะต้องจัดตั้งอุปกรณ์เกี่ยวกับการกู้ภัยแบบต่างๆให้ได้มาตรฐานและพร้อมใช้งาน อาคารเรียนจะต้องได้รับการซ่อมแซมให้พร้อมหากเกิดกรณีแผ่นดินไหว ไฟไหม้หรือเกิดจลาจล สถานศึกษาจะต้องให้ความรู้และซักซ้อมให้นักเรียนนักศึกษาและบุคลากรมีความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินและเพิ่มปริมาณตำรวจดูแลบริเวณสถานศึกษาและใกล้เคียง
จำนวนคดีความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเขตรั้วสถานศึกษาในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองหลูโจว มณฑลซื่อขวน มีนักเรียนรายหนึ่งได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ด้วยการกระโดดลงมาจากชั้นดาดฟ้าของอาคารเรียน
ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า เด็กชายผู้เสียชีวิตนั้นถูกเพื่อนนักเรียน 5 คนทุบตีจนเสียชีวิต ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการสืบสวนสอบสวนของตำรวจในคดี การเร่งปิดสำนวนและกระแสการถูกกลั่นแกล้งและทำร้ายกันในสถานศึกษา
ในรายงานการทำงานของรัฐบาลเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ได้เน้นย้ำถึง “ความปลอดภัย” ในระบบการศึกษาว่า ครอบครัว โรงเรียน รัฐบาล และสังคม จำเป็นต้องร่วมมือกันในการสร้างความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรเพื่อให้เยาวชนของชาติเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต
เจิ้ง จงเกิน คุณครูจากโรงเรียนมัธยมเหวินเฟิง มณฑลอันฮุยกล่าวว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีนี้ ยังได้มีสัญญาณเตือนมาถึงเด็กๆที่ทำตัว “เกเร” ที่คอยกลั่นแกล้งเพื่อนหรือเอารัดเอาเปรียบเพื่อนนักเรียนที่ไม่สามารถเอาชนะได้ คุณครูเห็นว่า การที่มีการบัญญัติโทษสำหรับเด็กเกเรเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะโรงเรียนไม่สามารถสอดส่องนักเรียนทุกคนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น หากทางการสามารถสร้างบทลงโทษหรือการให้ข้อมูลเตือนสำหรับเด็กที่จะแกล้ง ทุบตี หรือทำร้ายเพื่อนให้ทราบก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก อย่างน้อยเด็กๆจะได้รู้สึกกลัวและเริ่มคิดให้หนักก่อนที่จะทำร้ายเพื่อนนั่นเอง
You must be logged in to post a comment Login