- ปีดับคนดังPosted 4 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 6 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
แก้ปัญหาตาแห้ง / โดย ผศ.พญ.สุมาลี หวังวีรวงศ์
คอลัมน์ : พบหมอศิริราช
ผู้เขียน : ผศ.พญ.สุมาลี หวังวีรวงศ์
การผ่อนคลายสายตาเป็นการป้องกันโรคตาแห้งที่ได้ผลดี เพื่อให้ดวงตาสดใสอยู่เสมอ
น้ำตามีประโยชน์ในการช่วยเคลือบและคลุมผิวตาไม่ให้แห้ง หล่อลื่นดวงตาให้เกิดความสบายตา ลดการระคายเคืองทุกครั้งที่กะพริบตา ที่สำคัญคือมีสารที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค หากน้ำตาน้อยจะเกิดภาวะตาแห้ง ส่งผลให้เกิดความไม่สบายตาและตามัว
อาการตาแห้งมีหลายสาเหตุ แต่ที่พบบ่อยคือ มีการสร้างน้ำตาลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุมากขึ้น การรับประทานยาบางอย่าง เช่น ยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด การใส่คอนแท็คเลนส์ที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่ถูกวิธี ภูมิแพ้ที่ตา หนังตา หรือเยื่อตาอักเสบเรื้อรัง รวมถึงผู้ที่เคยทำเลสิก ผ่าตัดตา ผู้มีปัญหาหลับตาไม่สนิท ตลอดจนช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้ง ลมแรง ดื่มน้ำน้อย การอ่านหนังสือหรือใช้คอมพิวเตอร์นานๆก็ทำให้น้ำตาระเหยไปได้เช่นกัน
หากต้องใช้สายตาหรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ควรพักสายตาทุก 30-60 นาที ด้วยการหลับตา 1-2 นาที กะพริบตาบ่อยๆ, ผู้ที่ใส่คอนแท็คเลนส์ไม่ควรใส่นานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน, ผู้ที่รับประทานยาแก้แพ้เป็นประจำอาจจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมช่วย, ดื่มน้ำมากๆ, หลีกเลี่ยงที่ที่มีลมแรง ถ้าต้องอยู่ในที่ที่อากาศแห้ง ร้อน หรือมีลมพัด ควรสวมแว่นเพื่อกันแดดและลมที่เป็นสาเหตุทำให้ตาแห้ง นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาพวกผัก ผลไม้ ปลา หรืออาหารทะเลที่มีกรดไขมันที่จำเป็นหรือโอเมก้า-3 จะช่วยให้น้ำตาระเหยช้าลง
อย่างไรก็ตาม เราควรทะนุถนอมดวงตาด้วยการพักสายตาเป็นระยะๆ ไม่ใช้สายตาติดต่อกันนานๆหลายชั่วโมง และกะพริบตาบ่อยๆให้มีน้ำตาเคลือบตาตลอดเวลา เพราะถ้าปล่อยให้ตาแห้งมากๆจะทำให้กระจกตาไม่เรียบใส ผิวกระจกตาอักเสบ จะทำให้มีอาการระคายเคืองและตาพร่ามัวได้
You must be logged in to post a comment Login