- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ลูบหน้าปะจมูก
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ท่ามกลางข่าวฆาตกรรมหั่นศพที่ทั้งสื่อและประชาชนให้ความสนใจกันทั้งบ้านทั้งเมือง มีข่าวหนึ่งที่ควรเป็นข่าวใหญ่แต่กลับไม่ถูกนำเสนอเท่าที่ควร
ข่าวที่ว่าคือข่าวการจับกุม พ.อ.อ.ภคิณ เดชพงษ์ ที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการข่าว กอ.รมน. ขนอาวุธสงครามจากชายแดนและมาประสบอุบัติเหตุ ที่ ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา และถูกทหารนาวิกโยธินรวบตัวได้พร้อมทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทยรวม 3 คน
ทั้งนี้ จากเอกสารการจับกุมระบุว่า เวลา 22.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2560 พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ ได้ขับรถยนต์คันเกิดอุบัติเหตุมาพักที่โรงแรมทวีศักดิ์ กิตติยา และมี นายเรียง วิเสิด รถยนต์ หมายเลขทะเบียน 2AD -5629 พนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่เข้ามาทางช่องเขาวง ต.คลองใหญ่ จ.ตราด เข้ามานำอาวุธส่งให้ พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ และทั้งสองคนได้นอนอยู่ในโรงแรม
ต่อมาในเวลา 07.00 น. วันที่ 3 มิถุนายน 2560 รถยนต์ทั้งสองคันได้ออกจากโรงแรมโดยรถยนต์ของพ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ เดินทางเข้ากรุงเทพฯ และเกิดอุบัติเหตุ ส่วน นายเรียง วิเสิด ขณะกำลังเดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กเพื่อเดินทางกลับประเทศกัมพูชา ได้รับแจ้งเหตุเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ จึงขับรถยนต์กลับมาและมารับนายจักรพงษ์ ไกลเรียง ที่บ้านคลองมะนาว ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพื่อมาช่วยเหลือ แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบว่า มีทหารนาวิกโยธินจำนวนมากจึงขับเลยไป และวกกลับมามุ่งหน้าไปยังบ้านหาดเล็กอีกครั้ง แต่เนื่องจากมีพิรุธจึงถูกสกัดและควบคุมตัวระหว่างที่กำลังจะออกจากจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กในเวลา 09.30 น. และทั้งหมดถูกนำตัวมาควบคุมที่ชค.ทพ.นย.ที่ 3 เขาล้าน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ ยอมรับแล้ว่า ได้ขนอาวุธสงครามชุดนี้มาจากนายทหารกัมพูชาระดับนายพัน ที่นำมาให้ แล้วจะนำไปส่ง ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อขายให้กับกะเหรี่ยงเคเอ็นยู และได้ทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจไม่ได้มีเพียงรูปคดีเท่านั้น แต่ยังมีความน่าสนใจในท่าทีของหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยที่ดูเหมือนพยายามทำให้เรื่องนี้มีน้ำหนักน้อย และไม่ได้รับความสนใจจากสังคม
พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) อธิบายว่า กำลังพลของ กอ.รมน.ประกอบด้วย กอ.รมน.ส่วนกลาง (ส่วนบริหาร, ส่วนอำนวยการ และส่วนประสานการปฏิบัติ), กอ.รมน.ภาค 1-4, กอ.รมน.ภาคส่วนแยก และ กอ.รมน.จังหวัด
นอกจากนี้แล้ว ยังมีมวลชนกอ.รมน. และเครือข่ายข่าวภาคประชาชน ที่ได้ผ่านการฝึกอบรมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ซึ่งกำลังพลและมวลชนหรือเครือข่าย กอ.รมน.ทั้งหมดนั้น กอ.รมน.ไม่มีการออกบัตรแสดงตนว่าเป็นข้าราชการ สังกัด กอ.รมน.หรือผู้ที่ทำหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องกับ กอ.รมน.ทั้งหมด กอ.รมน.จะมีเพียงบัตรแสดงตนเพื่ออนุญาติผ่านเข้า-ออกพื้นที่ภายใน กอ.รมน.ส่วนกลาง (สวนรื่นฤดี กทม.) เท่านั้น
ดังนั้น ขอชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบ และหากพบเห็นว่ามีบุคคลแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมทันที หรือแจ้งที่โทรศัพท์หมายเลขด่วน 1374
สรุปคือ กอ.รมน.ไม่ยืนยันว่าพ.อ.อ.ภคิณ เดชพงษ์ ที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการข่าว กอ.รมน. เป็นคนของ กอ.รมน.จริงหรือไม่ ยืนยันเพียงว่าไม่ได้ออกบัตรใดๆให้กำลังพลในสังกัด
เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ของกลางที่ตรวจพบ ปืนอาก้ามากถึง 30 กระบอก และลูกกระสุนปืน เอ็ม 79 กว่าร้อยลูก แต่ไม่ค่อยเป็นเรื่องใหญ่ และไม่มีใครติดตามขยายผลว่าขบวนการค้าอาวุธนี้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับใคร และการขนอาวุธครั้งละมากๆนี้ ผ่านหูผ่านตาเจ้าหน้าที่ได้อย่างไรเมื่อคนทำยอมรับว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก
นี่ถ้าเป็นเรื่องเชื่อมโยงกับการเมืองบางฝ่ายจะถูกขยายความเป็นเรื่องใหญ่โตกว่านี้
แต่พอเป็นเรื่องคนกันเองกลับทำเหมือนลูบหน้าปะจมูก
You must be logged in to post a comment Login