วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

‘วิกฤตกาตาร์’บานปลาย

On June 8, 2017

กาตาร์ยังคงเผชิญภาวะวิกฤต หลังถูกประเทศเพื่อนบ้านตัดสัมพันธ์แบบเด็ดขาด แม้หลายฝ่ายพยายามเข้ามาคลี่คลายปัญหา แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ในทางตรงกันข้าม นักวิเคราะห์คนหนึ่งมองว่า ความขัดแย้งอาจบานปลายถึงขั้นเกิดสงคราม

มาตรการ “รุม” โดดเดี่ยวกาตาร์ นำโดยพี่ใหญ่ของตะวันออกกลาง คือซาอุดีอาระเบีย

โดยมีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และบาห์เรน เข้าร่วมด้วย มีเงื่อนไขสำคัญคือ “กาตาร์ต้องหยุดสนับสนุนเงินแก่กลุ่มหัวรุนแรง และกลุ่มก่อการร้ายโดยสิ้นเชิง”

เพื่อนบ้านทั้ง 3 ประเทศ กดดันกาตาร์ด้วยมาตรการไร้เยื่อใยโดยปิดช่องทางติดต่อกับกาตาร์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ และอากาศ ทำให้ชาวกาตาร์ตื่นตระหนก หวั่นเกิดการขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น

เดิมที จำนวนประเทศที่ร่วมมือกับซาอุฯ มี 6 ชาติ นอกจากยูเออีและบาห์เรนแล้ว ยังมีอียิปต์ เยเมน กลุ่มปกครองลิเบียด้านตะวันออก และมัลดีฟส์

ล่าสุด มีเพิ่มเข้ามาอีก 3 ประเทศ คือเมาริเชียส มอริเตเนีย และเซเนกัล

หลังปัญหาปะทุ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ซึ่งถูกมองว่า เป็นผู้สั่งการความเคลื่อนไหวนี้ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย แต่ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ขณะคูเวตก็เสนอเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ซึ่งก็ยังทำงานไม่คืบหน้าเช่นกัน

กาตาร์ยืนยันมาตลอดว่า ถูกป้ายสีด้วยข้อกล่าวหาร้ายแรง เหตุจากซาอุฯ ไม่พอใจกาตาร์ที่ไปคบกับอิหร่าน คู่อริสำคัญของซาอุฯ

กาตาร์เร่งดำเนินการแก้ปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา โดยขอสำรองอาหารและน้ำจากอิหร่านและตุรกี และทาบทามอีกหลายประเทศให้ช่วยเหลือ

สำหรับตุรกี ประกาศอยู่ข้างกาตาร์เต็มตัว ล่าสุด ที่ประชุมรัฐสภาตุรกี ลงมติอนุมัติให้ส่งทหารไปประจำการที่ฐานทัพในกาตาร์เพิ่ม

ด้านนายอับเดล บารี อัตวาน บรรณาธิการบริหารสื่อออนไลน์ al Rai al Youm ของคูเวต มองสถานการณ์นี้ว่า ซาอุฯ และพันธมิตร คงไม่เปลี่ยนจุดยืนในการกดดันกาตาร์

ในทางตรงกันข้าม กลับจะเพิ่มความเข้มข้นขึ้น เพื่อบีบกาตาร์ให้ “ยอมจำนน” ยอมรับข้อกล่าวหา และต้องให้คำมั่นว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกลุ่มก่อการร้ายอีกต่อไป

หากมาตรการกดดันแผนแรกไม่สำเร็จ อัตวานมองว่า ซาอุฯ และพันธมิตรอาจใช้แผน 2 คือการใช้กำลังทหาร ทำให้สงครามปะทุขึ้นในที่สุด

มุมมองของอัตวานค่อนข้างดุเดือด ซึ่งโอกาสเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เสียงข้างมากเชื่อว่า เหตุการณ์ไม่น่าจะพัฒนาไปถึงจุดเลวร้ายระดับนั้น   


You must be logged in to post a comment Login