- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
จนนาทีสุดท้าย
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
สถานการณ์บ้านเมืองในยุคที่รัฐบาลมีอำนาจเบ็ดเสร็จคุมทุกอย่างได้หมด แต่ก็ใช่ว่าจะมีความมั่นใจในความมั่นคงของตัวเอง ยังมีความหวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้างอยู่ตลอดเวลา
ยกตัวอย่างเช่น การอ้างว่ามีคนแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยเพื่อสั่งยกเลิกงานเลี้ยงของบรรดาอดีตส.ส.กว่า 50 คน เมื่อสัปดาห์ที่ แล้วโดยใช้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย
แม้จะมีข่าวว่าบรรดาอดีตส.ส.กลุ่มดังกล่าวนั้น แสดงตนชัดเจนว่าจะให้การสนับสนุนผู้นำคนปัจจุบันเป็นผู้นำประเทศต่อไปในอนาคตหลังเลือกตั้ง และมีการติดต่อประสานงานกับกลุ่มอำนาจปัจจุบันมาโดยตลอด
แต่เมื่อเป็นกลุ่มอดีตส.ส.จากพรรคการเมืองที่ถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม แม้จะแสดงตนเป็นผู้สนับสนุนแล้ว แต่ความไม่ไว้วางใจยังมี จึงเป็นเหตุให้ต้องล่มงานเลี้ยงไปก่อน
ความชัดเจนจากปากของท่านผู้นำอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือต้องการให้ฝ่ายการเมืองอยู่กันนิ่งๆไปก่อน ยังไม่อนุญาตให้เคลื่อนไหวอะไรตอนนี้ แม้แต่การนัดกินข้าวเพราะเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลได้
ถึงไม่ได้บอกว่าหวั่นเกรงจะกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลในด้านใด แต่สะท้อนถึงความวิตกต่อความมั่นคงของรัฐบาลจึงยังไม่ปลดล็อกคำสั่งคสช.ที่ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง แม้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการมาระยะหนึ่งแล้ว
เช่นเดียวกับการเรียกคนที่เห็นต่างจากรัฐบาลไปปรับทัศนคติก็ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้รับการประสานจาก พ.ท.พีรยุทธ์ เศวตเศรนี ว่าจะให้ทหารมารับตัวไปพูดคุยกันภายในกองทัพภาคที่ 1 อีกครั้งในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ หลังจากยังคงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลทหารคสช.อย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกเรียกไปคุยในค่ายทหารแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้
ในมุมมองของคสช.ยังเห็นว่าความคิดเห็นที่แตกต่าง การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของรัฐบาล
ความกังวลต่อความมั่นคงของรัฐบาลยังสะท้อนออกมาจากคำสั่งให้ขยายผลการจับกุมชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่รับจ้างกดไลค์ยอดวิวสินค้าประเภทต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยให้ขยายผลไปว่าคนกลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจผิดกฎหมายอื่น หรือมีบุคคลกลุ่มใดที่ใช้ขบวนการนี้ไปแสวงหาประโยชน์ในทางการเมือง ละเมิดสถาบัน หรือการยุยงปลุกปั่นสังคมหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีบางคนในกลุ่มอำนาจออกมาระบุว่านี่คือคำตอบว่าทำไมนักการเมืองบางคนมียอดกดไลค์ กดแชร์จำนวนมาก เมื่อออกมาให้ความเห็นทางการเมือง
แม้แต่ตัวท่านผู้นำยังบอกว่าต่อไปจะไม่ดีใจหากมีคนมากดไลค์ ชัดเจนว่าเป็นการพูดเพื่อกระทบชิ่งไปถึงนักการเมืองบางคนที่มียอดไลค์จำนวนมาก เพราะตัวเองไม่เล่นสื่อโซเชียล
เมื่อเลือกมองมุมนี้จึงไม่แปลกที่แม้รัฐธรรมนูญใหม่จะบังคับใช้แล้ว แต่สิทธิพิเศษทางอำนาจที่กฎหมายให้การรองรับยังคงถูกใช้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการมาตรา 44 ที่จะใช้เร่งรัดโครงการรถไฟไทย-จีน เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าโครงการมีความคืบหน้าก่อนที่จะลงจากอำนาจ แม้จะมีเสียงคัดค้านอยู่มากก็ตาม หรือการใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาราคายางพาราที่กลับมาตกต่ำอีกครั้ง
ชัดเจนว่าการใช้อำนาจพิเศษคู่ขนานไปกับรัฐธรรมนูญใหม่จะมีอย่างต่อเนื่องต่อไปไม่มีกำหนด
ถึงแม้จะมีการเลือกตั้งแล้ว แต่ตราบใดที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศได้ อำนาจพิเศษนี้จะยังมีอิทธิฤทธิ์ต่อไป
You must be logged in to post a comment Login