- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 12 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 7 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
อาณานิคมยุคใหม่? / โดย นายหัวดี
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2017/06/4603c.jpg)
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
“ทั่นผู้นำ” ทุบโต๊ะใช้ “มาตรา 44” ผลักดันรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพฯ-หนองคาย โดยจะก่อสร้างช่วงแรกกรุงเทพฯ-โคราช ระยะทาง 252.5 กิโลเมตร วงเงิน 179,000 ล้านบาท
“ทั่นผู้นำ” ต้องใช้ “มาตรา 44” ปลดล็อกเพราะผิดกฎหมายหลายประเด็น โดยเฉพาะพ.ร.บ.ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐปี 2535 และ 2556 มูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ต้องประกาศเชิญชวน กำหนดราคากลาง และมีคณะกรรมการคัดเลือก
สัญญาร่วมทุนไทย-จีนยังถูกท้วงติงว่า ไทยไม่ต่างกับตกเป็นทาสจีน เพราะเทคโนโลยีต่างๆก็ต้องซื้อเฉพาะจีน วิศวกรและสถาปนิกก็ต้องมาจากจีนและ “มาตรา 44” ก็ปลดล็อกไม่ต้องมีใบอนุญาตตามกฎหมายไทย แถมจีนยังขอ 2 ข้างทางรถไฟข้างละ 150 เมตรพัฒนาที่ดิน จนมีคำถามว่าซื้ออาวุธจากจีนแล้วยังต้องประเคนโครงการ อาชีพ และที่ดินให้อีกเป็น “สิทธิสภาพนอกอาณาเขตของจีนเหนือประเทศไทย” หรือไม่?
ที่แปลกประหลาดคือการก่อสร้างระยะที่ 1 แค่ 3.5 กิโลเมตรนั้น ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกัน ทั้งยังมีการข้อตั้งข้อสังเกตว่าราคาก่อสร้างต่อกิโลเมตรสมัย “เจ๊ปู” ที่ถูกกล่าวหาว่าโคตรโกงกับสมัย “ลุงตู่” ที่ยกย่องสรรเสริญว่าเป็น “คนดี” นั้นแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน?
“มาตรา 44” จึงเป็น “ดาบอาญาสิทธิ์” อย่างแท้จริง เพราะทำอะไรก็ไม่ผิด!
You must be logged in to post a comment Login