- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
พัฒนาการอุ้มบุญในอาเซียน

ธุรกิจ’อุ้มบุญ’ หรือการจ้างหญิงรับตั้งครรภ์แทนคนอื่น ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีมานาน บางประเทศออกกฎหมายห้าม และใช้กำลังปราบปราม แต่ยังไม่สามารถกำจัดธุรกิจนี้ให้หมดได้
ความเคลื่อนไหวเท่าที่ปรากฏในวงกว้างช่วงไม่นานที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นทำเลสำคัญแห่งหนึ่งในอาเซียน ที่กลุ่มทำธุรกิจอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ หรือเพื่อการค้า ใช้เป็นศูนย์รับลูกค้า และหาสตรีมารองรับการตั้งครรภ์
แม้ประเทศไทยจะออกกฎหมายห้ามเรื่องนี้ แต่กลุ่มทำธุรกิจส่วนหนึ่งยังคงปักหลักในไทย โดยทำงานในขั้นตอนที่ไม่มีข้อห้ามในกฎหมาย เรียกว่า อาศัยช่องโหว่กฎหมายทำมาหารายได้ต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการ “ผสมเทียม” แนวนี้ มีส่วนที่ต้องดำเนินการหลายขั้นตอน เช่น การนำอสุจิ ตัวอ่อน หรือไข่ของผู้ต้องการมีบุตร มาเก็บรักษาไว้ เพื่อใช้ฝังในมดลูกหญิงที่รับจ้างอุ้มท้อง เป็นต้น
ส่วนกลุ่มที่ยอมแพ้กฎหมายไทย มีการปรับขบวนด้วยการย้ายฐานที่มั่นไปยังกัมพูชาและลาว เนื่องจากทำงานได้สะดวกคล่องตัวกว่า
กัมพูชาออกกฎหมายห้ามเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา แต่การบังคับใช้กฎหมายยังไม่เด็ดขาด ยังไม่จริงจังกับเรื่องนี้ ส่วนลาวยังไม่มีกฎหมายห้าม
“พัฒนาการ” อีกส่วนหนึ่งของธุรกิจอุ้มบุญ คือการปรับแผนเป็นกิจการข้ามชาติ โดยดำเนินการปลูกฝังอสุจิ ตัวอ่อน หรือไข่ให้หญิงรับจ้างตั้งครรภ์ที่ลาวหรือไม่ก็กัมพูชา
จากนั้น ก็ให้หญิงรับจ้างอุ้มท้อง เข้ามารักษาพยาบาลและคลอดในประเทศไทย
จอช แลม ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท New Genetics Global มีสาขาอยู่หลายประเทศ รวมทั้งไทย กัมพูชา และลาว ระบุว่าทางบริษัทได้ปรับแผนทำงานในสาขากัมพูชาและลาว ป้องกันการละเมิดกฎหมาย
โดยหันไปจ้างหญิงชาติอื่นแทนคนท้องถิ่นเขมรและลาว ประกอบด้วยฟิลิปปินส์ เวียดนาม และจอร์เจีย จ่ายค่าจ้างสูงสุด 15,000 เหรียญสหรัฐ (510,000 บาท) และให้ผู้ต้องการมีบุตร ติดต่อพูดคุยรายละเอียดกับหญิงรับจ้างตั้งครรภ์โดยตรง บริษัททำหน้าที่เป็นเพียงสื่อกลางระหว่าง 2 ฝ่าย
ส่วนประเทศที่เป็นลูกค้าสำคัญของธุรกิจนี้ ประกอบด้วยชาวออสเตรเลีย จีน และสหรัฐ
จากความเห็นของผู้อยู่ในวงการ สะท้อนชัดเจนว่า ธุรกิจนี้ยังดำเนินต่อไปในอาเซียน โดยมีลาวและกัมพูชาเป็นฐานที่มั่นในปัจจุบัน ขณะไทยมีส่วนเกี่ยวข้องทางอ้อม
ความจริงหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ธุรกิจนี้ไม่ตาย คือผู้จ้างไม่ได้จ้างให้ตั้งครรภ์ด้วยจุดประสงค์เชิงพาณิชย์ หรือเพื่อการค้า
แต่จ้างเพราะต้องการมีลูก โดยไม่มีแนวทางอื่นให้เลือก
แม้มีกฎหมายห้าม คนกลุ่มดังกล่าวที่มีกำลังจ่าย ก็ยังพอใจเลือกใช้บริการนี้
You must be logged in to post a comment Login