วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ไม่มีสัญญาณบวก

On June 22, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

กลายเป็นเรื่องดราม่าน้ำตาอาบแก้มในโอกาสฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 50 ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนฟังแล้วต้องตีความระหว่างบรรทัด

“…วันเกิดทุกปี ทุกคนตั้งหน้าตั้งตา รอเพื่อที่จะได้ฉลองมีความสุข แต่สิ่งที่ดิฉันตั้งหน้าตั้งตารอคือการรอโชคชะตาและสิ่งดีๆ หลายคนบอกว่าหลังเดือนเกิดชีวิตจะมีแต่สิ่งที่ดีขึ้น ก็หวังว่าหลังวันเกิดปีนี้จะมีแต่สิ่งที่ดีเข้ามาบ้าง และหวังว่าจะมีโอกาสเข้ามาทำบุญแบบนี้ในปีหน้าอีก…

…ทั้งนี้ไม่ใช่ปีแรกที่พบเจออุปสรรคแบบนี้ แต่วันเกิดปีนี้คงจะใกล้ถึงเรื่องหนักหนาของชีวิต ที่จะต้องให้พลังใจกับตัวเราเองให้เข้มแข็ง บางครั้งเราจะบอกว่าเรายิ้มได้ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถระงับได้ ขอโทษที่ทำให้ต้องมาเห็นน้ำตาในวันนี้…

…อีกไม่นานคดีจำนำข้าวก็จะสิ้นสุด ส่วนตัวได้แต่หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาคดี สิ่งไหนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะร้องขอต่อศาลแล้วหวังว่าศาลจะเมตตา เพราะหากผู้ที่กำหนดนโยบายเกิดในสิ่งเดียวกับที่ดิฉันกำลังเผชิญ ก็คงไม่กล้าคิดนโยบายให้กับพี่น้องประชาชนอีกแล้ว เมื่อได้ดำเนินการทุกอย่างแล้วและรู้ว่าทำเพื่ออะไร ก็หวังว่าจะมีคนเข้าใจและเห็นใจให้ความเป็นธรรมบ้าง ให้นึกถึงความตั้งใจของเราอย่ามองปลายทาง…

…ที่ผ่านมาพยายามเข้มแข็งและพยายามต่อสู้คดีโดยไปศาลทุกนัด แต่เมื่อเวลาใกล้หมด คนเรามีข้อจำกัดและหากใครเจออย่างดิฉันก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ตอนนี้ก็พยายามแล้วที่จะเข้มแข็ง พยายามทุกๆอย่างแล้ว หวังว่าในอีกไม่กี่นัดที่เหลือจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ ฝากขอบคุณพี่น้องประชาชน ทั้งที่เดินทางมาให้กำลังใจหน้าศาลทุกนัด และประชาชนที่อยู่ที่บ้าน ขอขอบคุณ ในสิ่งที่เมตตาคนชื่อยิ่งลักษณ์มาตลอด แล้วหวังว่าจะได้มีโอกาสขอบคุณทุกคนด้วยตัวเองที่ประเทศนี้ และได้มีโอกาสมาทำบุญร่วมกันแบบนี้…”

อีกไม่นานคดีจำนำข้าวจะสิ้นสุด หวังว่าจะมีโอกาสได้ทำบุญแบบนี้อีกในปีหน้า หวังว่าจะได้มีโอกาสขอบคุณทุกคนด้วยตัวเองที่ประเทศนี้

ถือเป็นไฮไลท์ของคำพูดที่ทำให้ตีความกันไปได้ไกล แม้จะให้สัมภาษณ์ภายหลังยืนยันว่าไม่คิดหนีคดีว่านี่เป็นการส่งสัญญาณอะไรถึงผู้สนับสนุนหรือไม่

ได้รับสัญญาณอะไรมาพอที่จะล่วงรู้อนาคตของตัวเองล่วงหน้าหรือไม่

ทั้งนี้ ในส่วนของคดีจำนำข้าวที่ถูกอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ขึ้นศาลเพื่อฟังการไต่สวนพยานจำเลยเป็นนัดที่ 13 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา จากที่ศาลฯกำหนดให้สืบพยานจำเลยทั้งหมด 42 ปาก รวม 16 นัด

เมื่อคดีงวดเข้ามาใกล้ถึงวันที่ได้ข้อสรุป จากที่เดินทางไปขึ้นศาลฟังการสืบพยานด้วยตัวเองทุกนัดจึงน่าที่จะประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับอนาคตของตัวเองได้ แม้จะพยายามเข้มแข็งขนาดไหน แต่โดนเข้าแบบนี้ความหวั่นไหวที่แอบซ่อนอยู่ข้างในจึงเริ่มแสดงออกมาให้เห็น

ดูจากท่าทีที่แสดงออกชัดเจนว่าเริ่มท้อเพราะไม่มีสัญญาณบวก ส่วนอนาคตของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์จะลงเอยอย่างไร รออีกไม่นานทุกอย่างจะชัดเจน


You must be logged in to post a comment Login