วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เด็กเลี้ยงแกะ? / โดย Pegasus

On June 26, 2017

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus

เวลานี้เกิดสิ่งที่เรียกกันว่า “ความไม่น่าเชื่อถือ” กระจายไปทั่วทั้งสังคม ไม่จำกัดเฉพาะเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อจากภาครัฐที่คุ้นเคยกันแล้ว แต่อาจเพราะการใช้วาทกรรมแบบนักการเมืองมีทั่วไปจนพูดอะไร พูดอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ

คงจำนิทานอีสปที่ขณะนี้ไม่อยู่ในตำราเรียนแล้วได้คือเรื่อง “เด็กเลี้ยงแกะ” ที่ชอบโกหกตะโกนเรียกให้คนมาช่วยว่ามีหมาป่ามา ครั้งแรกๆชาวบ้านก็เชื่อ แต่ผ่านไป 2-3 ครั้ง ชาวบ้านเห็นว่าเด็กเลี้ยงแกะโกหก ตะโกนเพื่อความสนุกเท่านั้น ครั้นหมาป่ามาจริงๆคราวนี้เด็กเลี้ยงแกะตะโกนเรียกชาวบ้านให้มาช่วย แต่ไม่มีใครเชื่อ สุดท้ายผลร้ายก็ตกอยู่กับเด็กเลี้ยงแกะนั่นเอง

การโกหกหลอกลวงเพื่อเอาเงินในสังคมขณะนี้ระบาดไปทั่ว อย่างกรณีแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอาจมองว่าเป็นการสมยอมระหว่างคนที่เข้าไปร่วมเล่น เหมือนเล่นแชร์ตามปรกติที่คนทั่วไปเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ทำให้การหลอกลวงแล้วหนีไปเกิดขึ้นในสังคมทุกระดับจนไม่มีใครเชื่อ ตั้งแต่ระดับรัฐลงมาถึงระดับครัวเรือน แม้แต่พรรคพวกเพื่อนฝูง

หากมองภาพที่ใหญ่ระดับประเทศ ประเทศขาดดุลการค้า นักลงทุนขาดเงินที่จะลงทุน เพราะปัญหาเศรษฐกิจโลก รวมทั้งตลาดในยุโรปและประเทศตะวันตกไม่สั่งสินค้า แต่พยายามปลอบใจตัวเองว่าเศรษฐกิจดีขึ้นทุกวัน โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ แต่เมื่อประชาชนส่วนใหญ่เอามือล้วงในกระเป๋าก็พบว่าว่างเปล่า ความเชื่อถือก็ค่อยๆหายไปเรื่อยๆ

ระยะแรกอาจอดทน เพราะคิดว่าต้องใช้เวลากว่าเศรษฐกิจที่ว่าดีนั้นจะส่งผลมาถึงตนเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้ากลับเหมือนเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ ประชาชนก็ไม่เชื่อสิ่งที่รัฐพูดหรือรายงาน เห็นได้จากโพลต่างๆที่ไม่น่าเชื่อถือ เห็นว่าเป็นการโกหกหลอกลวงทางการเมือง เมื่อความไว้วางใจหมดไป ความเสียหายก็จะตามมา ผู้คนจะเชื่อข่าวลือ นักลงทุนต่างหนีไปประกอบธุรกิจที่ประเทศเพื่อนบ้านแทนเพื่อความอยู่รอดอย่างในปัจจุบัน

สิ่งที่น่ากังวลคือ จะมีเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือเกิดขึ้นอีกนานแค่ไหน ไม่ว่าจากรัฐบาล ข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ จนถึงคนที่อยู่รอบตัว คนส่วนใหญ่ตั้งอกตั้งใจจะหลอกลวงและหาประโยชน์จากกันและกัน ทำให้มีคำถามว่าอะไรคือต้นเหตุที่ทำให้เกิดบรรยากาศเช่นนี้

ต้นเหตุที่กล่าวกันมากที่สุดคือปัญหาทางการเมือง เพราะมีการสมคบคิดเพื่อโกหกให้ผ่านไปวันๆ ไม่ว่านักการเมืองหรือข้าราชการต่างดูเหมือนจะพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย แม้แต่โพลต่างๆที่มาจากสถาบันการศึกษาก็ยังตามกระแส ไม่ใช่มีอคติ แต่หลายครั้งเป็นลักษณะเอาใจนักการเมืองเพียงเพื่อความอยู่รอดหรือกลัวอำนาจก็ตาม ทำให้สถาบันการศึกษาก็ไม่ได้รับความไว้วางใจ

ยิ่งหน่วยงานที่คิดว่าจะเป็นที่พึ่งของประชาชน หรือองค์กรเคลื่อนไหวในอดีตที่อ้างว่าทำเพื่อประชาชน ก็ยังมีจำนวนไม่น้อยที่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาว่าไม่ได้ทำเพื่อประชาชนจริงๆ แต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

ดังนั้น หากบ้านเมืองยังเต็มไปด้วย “เด็กเลี้ยงแกะ” และ “ผู้ใหญ่เลี้ยงแกะ” หรือ “คนแก่เลี้ยงแกะ” ยังออกมาโกหกรายวัน แก้ตัวรายวัน เพราะไม่กล้าพูดความจริงหรือยอมรับความผิดพลาดของตนเอง ยิ่งคิดว่าตนเองเป็นผู้มีอำนาจ ใครเห็นต่างหรือวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็หงุดหงิด จะเพราะอารมณ์หรือปกปิดความผิดหรือความลับ บ้านเมืองก็จะยิ่งมีปัญหา เมื่อเกิดภัยต่างๆจริงๆ ประชาชนก็ต้องพิจารณาให้ดีว่าอะไรเป็นข้อมูลจริง เพื่อจะช่วยเหลือตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย


You must be logged in to post a comment Login