วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

จัดงานขี่ช้าง

On July 7, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่อยู่ๆก็แจ้งเกิดขึ้นมาทำงานแทนสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แบบที่คนงงกันทั้งประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ  เป็นแม่งานถูกคว่ำกำลังจะหมดวาระการทำงานช่วงไม่กี่วันหลังจากนี้

ช่วงที่มีการตั้งสปท.ขึ้นมาทำงานแทนสปช.เกิดคำถามมากมายว่าตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร เพราะงานปฏิรูปก็เป็นหน้าที่ของ สปช.อยู่แล้ว

แม้อำนาจหน้าที่จะเหมือนกัน แต่ที่จำเป็นต้องโละทิ้งสปช.เพราะต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในตอนนั้นที่มีกระแสข่าวว่าสมาชิก สปช.หลายคนทำงานเป็นอิสระมากเกินไปเลยต้องโละทิ้งแล้วตั้ง สปท.ขึ้นมาทำงานแทน

วันที่ 31 กรกฎาคมนี้จะจัดงานใหญ่ทำพิธีส่งมอบผลการศึกษาการปฏิรูปด้านต่างๆให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

งานจะจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภา นอกจากสมาชิก สปท.และท่านผู้นำแล้ว ยังเชิญแขกมาร่วมเป็นสักขีพยานการส่งมอบผลศึกษาการปฏิรูปด้วยจำนวนมาก ทั้งคณะรัฐมนตรี คสช. หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ฯลฯ เรียกว่ามีแขกเรื่อยมาเต็มสภา เสร็จจากพิธีส่งมอบงานแล้วจะมีการเลี้ยงที่ชั้นสองและสามของอาคารรัฐสภา

ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่างานที่สปท.จะส่งมอบให้กับท่านผู้นำนั้นมีอะไรบ้าง ทำให้นึกย้อนไปถึงการทำงานปฏิรูปของ สปช. ที่จัดพิธีส่งมอบผลงานศึกษาการปฏิรูปด้านต่างๆให้กับท่านผู้นำอย่างใหญ่โตเหมือนกัน โดยงานจัดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2558 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้สโลแกน “เปลี่ยนประเทศไทย”

ครั้งนั้น สปช.ส่งมอบวาระการปฏิรูป 37 วาระ และ 6 วาระการพัฒนาให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่ง 6 วาระการพัฒนาที่ส่งมอบไปประกอบด้วย

1.ระบบการเลือกตั้งที่สุจริตยุติธรรม 2.กลไกลป้องกัน ขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบและการบังคับใช้กฎหมาย 3.ขจัดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ 4.ขจัดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางสังคม 5.กลไกของรัฐที่มีประสิทธิภาพ และ6.คุณภาพคนและพลเมือง

หลังส่งมอบแนวทางปฏิรูปและหน้าที่ไปมี สปท.เข้ามารับช่วงแทน

ครั้งนั้น นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. พูดไว้ในวันส่งมอบงานว่า

“ได้ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ ก่อนเสนอแผนที่เป็นแนวทางการปฏิรูปประเทศ ได้ทยอยศึกษาและส่งให้รัฐบาลดำเนินการปฏิรูปแบบเร่งด่วนไปแล้วไม่น้อยกว่า 50 เรื่อง พร้อมยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงย่อมทำให้มีทั้งผู้ที่ได้และผู้เสียประโยชน์ ทั้งนี้ ก็ไม่ปฏิเสธว่ามีใบสั่ง แต่ก็ไม่ยืนยันว่าได้ทำตามทุกคำร้อง อย่างน้อยที่สุดคิดว่าสิ่งที่คิดไม่ได้เสียเปล่า ไม่ได้เสียของอย่างที่คนปรามาส”

คำถามคือเวลาที่ผ่านไปกว่า 1 ปี กับ 11 เดือนหลังการส่งมอบงานปฏิรูปครั้งนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางปฏิรูปให้ประชาชนได้รู้สึกสัมผัสได้อย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่

ครั้งนี้จึงต้องรอดูว่าหลังการส่งมอบงานของ สปท.ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางปฏิรูปให้ประชาชนชื่นใจหรือไม่

มีคนเคยพูดไว้ว่างานปฏิรูปประเทศ คสช.ไม่จำเป็นต้องทำทุกเรื่อง ขอให้ทำแต่เรื่องใหญ่ที่ทำแล้วส่งผลสะเทือนเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนจนประชาชนรู้สึกได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไม่เสียของ

ปัญหาคือเวลาที่เหลือนั่งอยู่ในอำนาจอีกแค่ปีเศษๆ จะทำอะไรได้หรือไม่ เมื่อเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมาแทบจะถือได้ว่าสูญเปล่าด้านการปฏิรูป


You must be logged in to post a comment Login